โจวหลี่เผยสีหน้าเศร้าหมอง ในช่วงนี้เขาทำหมดทุกทางแล้ว อับจนหนทางอย่างแท้จริง
“ตอนพวกเรามาก็นำเสบียงอาหารมาด้วย สามารถใช้รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินก่อนได้” ซ่งหลินพูด
“นั่นดีมากเหลือเกิน!” โจวหลี่เผยสีหน้าดีใจ
จากนั้น ชั่วขณะเขากำลังจะเร่งตามซ่งหลินไปดูเสบียงอาหาร กลับเกือบล้มหมดสติไป
หร่วนเฉิงประคองเขาไว้ พูดว่า “ท่านไม่เป็นไรกระมัง? ข้าเห็นท่านสีหน้าขาวซีด เทียบกับก่อนหน้านี้ยามได้พบกันแล้วท่านผอมลงไม่น้อย คาดว่าตัวท่านเองก็หิวกระมัง!”
“ข้าไม่เป็นไร” โจวหลี่โบกมือ “ทำให้พวกเจ้าเห็นเรื่องน่าขันแล้ว”
“ตอนนี้ยกเรื่องนี้ให้พวกเราเถอะ ท่านไปกินอะไรสักหน่อย พักผ่อนดีๆ” ฉีอู่เอ่ย
พวกบัณฑิตเหล่านี้แต่ละคนล้วนอ่อนแอไม่อาจต้องลม นายอำเภอของเมืองไห่เทียนก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนี้ บัดนี้โจวหลี่เองก็เป็นเช่นนี้ เขาเห็นแล้วไม่คุ้นชิน
“ท่านอ๋องและราชครูกู้ใกล้จะมาถึงแล้ว อีกไม่นานเรื่องนี้ก็จะได้รับการแก้ไข เจ้าไปพักผ่อนอย่างสบายใจก่อนเถอะ”
“เจินเอ๋อร์ เจ้านั่งเรือมาเหนื่อยเช่นเดียวกัน ข้าให้คนไปเก็บกวาดห้องไว้แล้ว เจ้าไปพักผ่อนก่อน ข้าจะไปจัดการเรื่องแจกโจ๊ก” ซ่งหลินเอ่ย
สีหน้าซ่งรั่วเจินสะท้อนความกังวล “ท่านพ่อ ตอนนี้บาดแผลของท่านต้องรักษาให้ดี อย่าเหนื่อยเกินไปเป็นอันขาด”
“ข้าไม่เป็นไร หากมีเรื่องใดต้องทำ เรียกพี่สามของเจ้าก็พอ” ซ่งหลินโบกมือ เหล่มองซ่งจืออวี้ “เจ้าว่าใช่หรือไม่?”
ซ่งจืออวี้รีบพยักหน้า “ใช่ มอบให้ข้าทำก็พอ!”
เห็นว่าทุกคนจากไปแล้ว ซ่งรั่วเจินเองก็รู้ว่าเพียงแต่นำเสบียงอาหารที่ลำเลียงกลับมาไปส่งที่โรงทานแจกโจ๊กเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องช่วย นี่จึงเดินรอบที่พักของนายอำเภอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง