หากไม่มีทางการ เดิมทีพวกเขาก็ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้!
โจวหลี่คนนี้ยังเป็นคนมีมโนสำนึกคนหนึ่ง น่ากลัวว่าก่อนหน้านี้ยามนายอำเภอหยางยังอยู่ เขาจะต้องเกลี้ยกล่อมหลายครั้งแน่ ดังนั้นสกุลสือเห็นเขาแล้วจึงไม่สบอารมณ์ บัดนี้จึงอยากหาทางทำให้เขาลำบาก
หลังหัวหน้าตระกูลเมืองผิงหยางทุกคนได้รับคำเชิญแล้ว กลับไม่ได้มาจวนของนายอำเภอในทันที ตรงข้ามกันไปยังสกุลสือก่อน
“คาดว่าทุกท่านล้วนรู้สถานการณ์ในตอนนี้แล้ว แม่ทัพซ่งอยู่ที่จวนนายอำเภอ ครั้งนี้เชิญพวกเราไปจะต้องเพื่อกดราคาเสบียงอาหารแน่ พวกเราน่าจะรู้ว่าสมควรทำเยี่ยงไรกระมัง?”
สีหน้าหัวหน้าตระกูลสือเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด ต่อให้แม่ทัพซ่งมาแล้วอย่างไร?
พวกเขาเพียงแต่ทำการค้า นอกจากแม่ทัพซ่งจะสามารถฆ่าพวกเขาทุกคนได้!
หากทำเช่นนี้จริง ต่อให้เป็นแม่ทัพซ่ง ก็ไม่สามารถฆ่าคนเป็นผักปลาได้ หรือว่าเพื่อราษฎรเมืองผิงหยางจึงไม่เป็นแม้แต่ขุนนางแล้ว?
“หัวหน้าตระกูลสือ ได้ยินมาว่าท่านอ๋องและราชครูกู้มาเพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวม คาดว่าอีกไม่นานก็จะมาถึงแล้ว หากถึงตอนนั้นถูกลงโทษ...”
“ลงโทษแล้วกลัวอันใด? บัดนี้กำลังขาดแคลนเสบียงอาหาร นั่นเป็นเรื่องของทางการ พวกเรากักตุนเสบียงอาหารเพื่อเลี้ยงดูปากท้องของคนในครอบครัว ถือสิทธิ์อะไรบีบบังคับให้พวกเราขายเสบียง?”
หัวหน้าตระกูลสือไม่ใส่ใจ “อุทกภัยรุนแรงถึงเพียงนี้ ราษฎรทั้งหมดล้วนขาดแคลนอาหาร นอกจากราชสำนักสามารถลำเลียงอาหารมากถึงเพียงนั้นมาจากที่อื่นได้ หาไม่แล้วเสบียงอาหารของพวกเราก็อยู่ใกล้ที่สุด!”
“ขอเพียงพวกเราอดทน ทางการก็ไม่อาจทำอันใดพวกเราได้ ถึงตอนนั้นพวกเราก็สามารถขายได้เป็นกอบเป็นกำ!”
“ข้าขอเตือนพวกเจ้า ใครมีความคิดอื่น หากข้าล่วงรู้ ภายภาคหน้าจะไม่มีวันมีชีวิตที่ดีภายในเมืองผิงหยางแน่!”
หัวหน้าตระกูลเฉาเองก็คล้อยตาม “ทุกท่านอย่าคิดมากเลย ฟังหัวหน้าตระกูลสือพูดจะต้องไม่ผิดแน่!”
คนอื่นที่นี่ล้วนพยักหน้า พวกเขาไม่มีสิทธิ์มีเสียง ต่อให้เกิดความคิดอื่นภายในใจก็ไร้ประโยชน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง