“ประจวบกับเมื่อคืนวานพวกท่านแม่ทัพซ่งก็ไปเหมือนกัน ไม่รู้ว่าหัวหน้าตระกูลสือได้รับความตกใจหรืออย่างไรจึงสลบคาอกไปเลย”
“โชคดีที่มีหมออยู่ด้วยจึงสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด แต่ดูเหมือนจะสาหัสเอาการ”
“ได้ยินมานานแล้วว่าหัวหน้าตระกูลสือประพฤติตัวเหลวไหล ที่บ้านจัดงานเลี้ยงอยู่ แต่ก็ยังจะทำเรื่องหวาดเสียวแบบนั้น จุ๊ๆ ถูกคนมากมายเห็นเรื่องชวนขายหน้าเลยไหม!”
“ไม่เพียงเท่านั้น ได้ยินว่ามีอนุภรรยาคนอื่นที่ถูกจับไปมาขอร้องให้ท่านแม่ทัพช่วยพวกนางออกไป ได้ยินว่าในบรรดาผู้หญิงที่หัวหน้าตระกูลสือเล่นด้วย มีคนที่ถูกเขาทรมานจนตายไปก็หลายคน!”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกเพียงรู้สึกว่าน่าขัน คราวนี้ตระกูลสือขายหน้าไม่เหลือชิ้นดี แต่หลังจากได้ยินว่าอนุภรรยาที่ถูกจับตัวไปเหล่านั้นมีชีวิตแสนอาภัพก็เปลี่ยนมาโกรธแค้นใจแทน
“คนสารเลวแบบนี้ เมื่อวานทำไมถึงไม่ตายไปเสียเลยนะ!” ไป๋จื่อมีสีหน้าเดือดดาล
ชิงเถิงมองนางอย่างอ่อนใจ “ไป๋จื่อ เจ้าพูดอะไรต่อหน้าคุณหนูน่ะ?”
“ไป๋จื่อคงโมโหเพราะได้ฟังเรื่องของหัวหน้าตระกูลสือมาสินะ?” ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง “ผู้ก่อกรรมชั่วไว้มากย่อมวิบัติในที่สุด คนแบบนี้เดี๋ยวก็ถูกผลกรรมคืนสนอง ตอนนี้กรรมนั้นมาถึงแล้ว”
ไป๋จื่อพยักหน้าติดต่อกัน “ท่านแม่ทัพกำลังสอบสวนเรื่องตระกูลสือ เมื่อคืนวานมีหัวหน้าตระกูลหลายคนมาที่นี่ แต่คุณหนูพักผ่อนอยู่จึงแจ้งพวกเขาว่าให้มาใหม่วันนี้เจ้าค่ะ”
“วันนี้จึงมีคนมาตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนี้กำลังรอคุณหนูอยู่ในโถงหน้าเจ้าค่ะ”
“รู้แล้ว”
ซ่งรั่วเจินกินมื้อเช้าอย่างไม่รีบไม่ร้อน ตอนมาถึงโถงหน้าก็พบว่ามีคนมาไม่น้อย ล้วนแต่มองนั่นมองนี่ด้วยสีหน้าวิตกกังวล
ชั่วขณะที่เห็นว่านางมา ทุกคนล้วนตาสว่างวาบ
“แม่นางซ่งมาแล้ว!”
“ทุกท่านมาหาข้าคราวนี้เพราะอยากทำการค้ากับข้าสินะ?” ซ่งรั่วเจินกล่าวพร้อมยิ้มบาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง