“ข้าจำได้ว่าตอนนั้นเจ้าได้รับความตกใจ หลังกลับมาก็มีไข้สูงไปสามวัน ต่อมาถึงได้ดีขึ้น”
เนื่องจากตอนนั้นนี่เป็นเรื่องครึกโครมมาก เขาจึงจำเรื่องนี้ได้แม่น ตอนนั้นคนที่กลับมาล้วนถูกสั่งสอนอย่างหนัก ฉู่จวินถิงจึงมีความประทับใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง
ตอนนั้นเขายังพยายามทำความเข้าใจต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้โดยละเอียด หลังจากจ้าวซวี่ไป๋ทะเลาะกับแม่นางผู้นั้น สองฝ่ายก็แยกทางกัน พวกเขาไปเล่นบริเวณไม่ไกลออกไป ทั้งยังไม่คิดว่าแม่นางผู้นั้นจะเกิดเรื่อง
ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดอยู่ดีๆ จึงพลัดตกน้ำ
ฉู่อวิ๋นกุยนึกถึงเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาแล้วก็รู้สึกขนลุกซู่จึงลูบแขนโดยไม่รู้ตัว “แม่นางซ่ง เจ้าคงไม่ได้หมายความว่าแม่นางในความฝันของซวี่ไป๋คือเพื่อนเล่นสมัยเด็กผู้นั้นหรอกนะ?”
หลังจากซ่งรั่วเจินได้ยินว่าที่นั่นเคยมีคนจมน้ำตายมาก่อนจริงๆ ทั้งยังเป็นแม่นางที่รู้จักก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูง
“ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้นี้ ถ้าไม่มีต้นสายปลายเหตุเสียเลย จู่ๆ ฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางมาพัวพันกะทันหันเช่นนี้”
“แม่น้ำทุกสายล้วนเคยมีคนตายมาก่อน คนที่ตกน้ำยิ่งมีจำนวนนับไม่ถ้วน แต่คนส่วนใหญ่ หลังจากตกน้ำก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ นี่ล่ะคือปัญหา”
ทุกคนฟังแล้วก็รู้สึกว่านางพูดมีเหตุผลมาก แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น มิเท่ากับว่ามีเจตนาแก้แค้นหรอกหรือ?
“ตอนนั้นคงไม่ใช่พวกท่านผลักนางตกน้ำกระมัง?” ซ่งรั่วเจินถามอย่างจริงจัง
ถ้าเจตนา เช่นนั้นก็เป็นไปได้มากว่าเป็นวิญญาณอาฆาต สถานการณ์ก็จะต่างออกไป
“ไม่ใช่” ฉู่อวิ๋นกุยส่ายหน้าติดต่อกัน “พวกข้าไม่ได้ทำร้ายนางจริงๆ ตอนนั้นแค่อายุน้อยเกินไป แม่นางน้อยยังขี้แย ตอนนั้นพวกข้าไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผา ดังนั้นพอนางร้องไห้ก็พูดแค่ว่ายุ่งยากจริงๆ แล้วก็ไปเล่นกันที่อื่น”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...