ในช่วงฤดูที่สายหมอกและสายฝนโปรยปราย จ้าวซวี่ไป๋ได้บังเอิญพบเจอกับแม่นางเหมียวเหมี่ยวที่ลืมพกร่มมา
นางมีผิวพรรณขาวผ่องงดงาม ราวกับดอกไม้สีขาวที่เบ่งบานอยู่ริมทาง ทั้งบริสุทธิ์ อ่อนโยน และดูไร้เดียงสา จนผู้คนอดไม่ได้ที่จะอยากปกป้อง ยามที่นางยิ้มก็ยิ่งอ่อนหวาน ราวกับรอยยิ้มนั้นได้แทรกซึมเข้าสู่หัวใจผู้คน
จ้าวซวี่ไป๋พูดไปพูดมาก็อดไม่ได้ที่จะเผลอเผยรอยยิ้มออกมา ครั้นเมื่อกล่าวถึงช่วงท้าย แก้มก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม
ซ่งรั่วเจินสบตากับคนอื่น ๆ แวบหนึ่ง แม้เขาจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน แต่ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่า การพบเจอกันเช่นใดที่สามารถทำให้จิตใจของบุรุษว้าวุ่น จนถูกช่วงชิงวิญญาณไปโดยสิ้นเชิง
รสชาติแห่งความลุ่มหลงในความฝันนี้ คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาเป็นแน่
“อวิ๋นอ๋อง ก่อนหน้านี้ท่านกล่าวว่าคุณชายจ้าวเคยมีสหายรักตั้งแต่วัยเยาว์ที่พลัดตกน้ำตายเมื่อหลายปีก่อน มีนามว่าอะไรหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม
ฉู่อวิ๋นกุยขมวดคิ้ว “ข้ากับแม่นางผู้นั้นมิได้สนิทสนมกันนัก อีกทั้งยังผ่านมาหลายปีเช่นนี้ กล่าวตามตรง ข้าก็จำมิได้”
“นางคือเฉียนชิ่งเหมียว” นายหญิงจ้าวรีบเอ่ยขึ้น
“เฉียนชิ่งเหมียว แม่นางเหมียวเหมี่ยว ทั้งสองคือคนคนเดียวกันหรือ?” อวิ๋นอ๋องเข้าใจได้ในทันที
สีหน้าของนายหญิงจ้าวไม่สู้ดีเป็นที่สุด “นี่ หรือว่าจะเป็นวิญญาณอาฆาตทวงชีวิต?”
ในตอนนั้น เฉียนชิ่งเหมียวก็ตายในแม่น้ำแห่งนั้น และเมื่อไม่กี่วันก่อนจ้าวซวี่ไป๋ก็ตกน้ำ ณ ที่แห่งเดียวกัน นางจึงรู้สึกถึงความผิดปกติที่พูดไม่ออก
เพียงแต่นางไม่ได้คิดมากนัก บัดนี้เมื่อซ่งรั่วเจินได้กล่าวขึ้นมา นางจึงตระหนักได้ว่าเรื่องนี้เลวร้ายเพียงใด
ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “น่าจะเป็นคนคนเดียวกันมิผิดแน่”
“เจ้าพูดจาเหลวไหล เหมียวเหมี่ยวจะเป็นเฉียนชิงเหมียวไปได้อย่างไร พวกนางไม่มีทางเป็นคนคนเดียวกัน!” จ้าวซวี่ไป๋รีบโต้แย้ง “ตอนที่เฉียนชิงเหมียวตาย นางยังไม่ถึงสิบขวบ ข้ายังจำรูปร่างหน้าตาของนางได้ ซึ่งแตกต่างจากแม่นางเหมียวเหมี่ยวอย่างสิ้นเชิง”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...