ซ่งรั่วเจินหยิบยันต์ออกมาหนึ่งใบ ติดไว้ที่หัวเตียงดังเดิมแล้วพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจอนางก็ไม่ต้องกลัว นางทำร้ายท่านไม่ได้”
“ขอบคุณแม่นางซ่งมาก”
จ้าวซวี่ไป๋นึกถึงแสงสีทองที่ได้เห็นก่อนหน้านี้ก็รู้ความยอดเยี่ยมของยันต์ใบนี้แล้ว เทียบกับยันต์ใบก่อนและยันต์ใบนี้ สีของมันจางกว่ามาก
มองเห็นจ้าวซวี่ไป๋นอนหลับ ทุกคนล้วนตึงเครียดขึ้นมา
ฉู่จวินถิงมองแม่นางข้างกาย “ใช่หรือไม่ว่ายังมีเรื่องอื่นที่พวกเราไม่รู้?”
“ท่านมองออกได้เยี่ยงไร?” ซ่งรั่วเจินตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ นางไม่ได้พูดอะไรเสียหน่อย
ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วคม “ข้าย่อมไม่รู้เรื่องศาสตร์ลี้ลับ แต่ข้ารู้จักเจ้า”
หรือพูดอีกอย่างคือเขามองออกผ่านท่าทีตอบสนองของซ่งรั่วเจิน
ซ่งรั่วเจิน “???”
ฉู่อวิ๋นกุยกลับไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย เสด็จพี่เชี่ยวชาญการสังเกตสีหน้าที่สุด มีประโยชน์อย่างยิ่งตอนตัดสินคดี หาไม่แล้วคงไม่มีคนมากมายไม่อาจหลุดรอดสายตาของเสด็จพี่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดว่าบัดนี้สายตาของเสด็จพี่เต็มไปด้วยพี่สะใภ้ ย่อมสังเกตออก
“พี่ แม่นางซ่ง เจ้าพูดเถอะเรื่องอื่นนั้นหมายความว่าอันใด?”
ฉู่อวิ๋นกุยจะเรียกพี่สะใภ้ แต่สังเกตเห็นว่ายังมีคนนอกอยู่จึงรีบเปลี่ยนคำพูด ทอดถอนใจภายใน ตกลงเสด็จพี่จะสู่ขอพี่สะใภ้ยามใดกันเล่า!
ก่อนหน้านี้ไม่ใช่พูดว่ารอกลับจากทางใต้แล้ว เสด็จพ่อจะประทานสมรสหรอกหรือ?
บัดนี้กลับมาแล้ว เหตุใดยังไม่ประทานสมรสอีก? เขาอยากเรียกพี่สะใภ้อย่างเปิดเผยเสียที

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...