มิหนำซ้ำเจ้าสี่สกุลซ่งแม้จะไม่ได้เข้ามาอยู่ในราชสำนัก แต่กลับค้าขายเก่งกาจยิ่ง ส่วนตัวซ่งรั่วเจินเอง นอกจากเคยถอนหมั้นและอายุมากไปหน่อยแล้ว กลับไม่มีสิ่งใดไม่เหมาะสม
แต่ว่า เพียงคิดว่าลูกชายของตนเองห่างเหินกับนางเพราะผู้หญิงคนหนึ่งก็รู้สึกหนาวเยือกในอก
“ข้าได้ยินท่านอ๋องบ้านข้าพูดว่า หลังจากแม่ทัพซ่งกลับมา เรื่องที่เมืองผิงหยางก็ปิดบังไม่ได้อีกแล้ว”
“เรื่องทางนั้นไม่น้อย นอกจากนี้ สาเหตุที่แม่ทัพซ่งได้รับบาดเจ็บหนักก็เป็นเพราะมีคนลอบส่งข่าว จงใจวางกับดัก แต่คนสกุลหลิงกลับรุดมาถึงได้บังเอิญปานนั้นจนสร้างความชอบไปได้”
“พี่หญิง ท่านปราดเปรื่องมาโดยตลอด เรื่องในราชสำนักก็เข้าใจมากกว่าข้า ไม่คิดว่ามีปัญหาในเรื่องนี้บ้างหรือเจ้าคะ?”
ลู่หมิ่นฮุ่ยแววตาหนักอึ้ง ความจริงนางเข้าวังมาวันนี้ เรื่องสำคัญที่สุดก็คือเรื่องนี้
ยามปกติท่านอ๋องไม่มีทางพูดถึงเรื่องนี้กับนาง แต่เมื่อวานกลับบังเอิญพูดพอดี นางไม่รู้ว่าเป็นเพราะท่านอ๋องดื่มสุรามากไปด้วยความยินดีหรือว่าเจตนาเตือนนางกันแน่
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พี่หญิงล้วนสมควรได้รู้เรื่องนี้ อีกทั้งยังไม่ควรไปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสกุลหลิง
เมื่อวาจานั้นดังขึ้น แววตาฮองเฮาก็เปลี่ยนไปหลายส่วน อันที่จริงหลังจากแม่ทัพซ่งกลับมา นางก็เริ่มใคร่ครวญเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่ามีปัญหา
นางรู้สึกว่าระหว่างสกุลซ่งกับสกุลหลิงต้องมีใครสักคนที่พูดเท็จ ขณะที่ซ่งหลินเกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งเพราะเรื่องนี้ หลังจากทหารที่ติดตามเขาตกหลุมพราง ส่วนใหญ่ก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว
คนที่เหลือรอดกลับมาได้ คำพูดของพวกเขาล้วนสอดคล้องกัน คิดว่าจะต้องตามหาผู้อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้เป็นแน่
ถ้าสกุลหลิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนร้ายครั้งนี้จริง นั่นคงเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสยิ่ง
“ข้ารู้แล้ว เจ้าวางใจเถอะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...