เมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่เริ่มพูดคุยกันแล้ว ซ่งจิ่งเซินจึงลากซ่งรั่วเจินออกไปด้วยกัน พลางกล่าวว่า “อยู่ตรงนี้ดูผู้ใหญ่คุยกัน สู้ไปตรวจร้านดีกว่า กิจการร้านปิ้งย่างดีเหลือเกิน เรียกได้ว่าผลิตไม่ทันความต้องการเลยทีเดียว”
“ที่เจ้าตัดสินใจเลือกอาคารสองชั้นไว้ก่อนหน้านี้น่ะถูกแล้ว หากทำเล็กเหมือนร้านขายไก่ทอดละก็ คงแย่แน่ๆ”
เพราะรายการอาหารของร้านขายไก่ทอดไม่มากนัก หลังจากที่ทุกคนซื้อเสร็จ ก็จะถือเดินไปเลย ต่อให้ต้องต่อแถวอยู่ริมถนนก็ไม่เป็นไร แต่รายการอาหารของร้านปิ้งย่างนั้นมีมากมาย จึงเหมาะสำหรับสหายที่มารวมตัวกันกินเนื้อย่างและดื่มเหล้า
เพราะฉะนั้น หน้าร้านจะต้องกว้างเข้าไว้
แม้จะเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ก็ยังคงผลิตไม่ทันความต้องการ เพื่อแย่งที่นั่ง ถึงกับเกิดการปะทะกันขึ้นบางครั้ง
“ท่านคิดจะเปิดสาขาเพิ่ม?” ซ่งรั่วเจินเพียงแค่มองสีหน้าพี่สี่ของตน ก็เดาออกถึงความคิดที่ผุดขึ้นในใจเขา
“น้องหญิงห้า เจ้านี่ช่างฉลาดจริงๆ!” ซ่งจิ่งเซินตบมือ “ข้ายังมิได้พูดอะไร เจ้าก็เดาออกแล้ว สมกับที่เป็นพี่น้องร่วมใจ พลังย่อมสามารถตัดทองได้!”
ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “ไป พวกเราไปกันเถิด”
เพราะต้องการจะเปิดร้านค้าสาขาใหม่ ทั้งสองจึงเลือกทิศทางที่ต่างจากร้านปิ้งย่างเดิม หนึ่งก็เพื่อที่จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่พักอยู่ไกล อีกด้านหนึ่งก็เพื่อที่จะสามารถรับประกันว่าไม่กระทบกับกิจการของร้านเดิม
ร้านค้าที่เหมาะสมมีอยู่ไม่น้อย สุดท้ายก็ถูกใจหอสุราสามชั้นแห่งหนึ่ง
“ที่นี่ทำเลดีอย่างยิ่ง รอบ ๆ ก็มีพื้นที่ว่างอยู่ไม่น้อย รถม้าจอดได้สะดวก อีกทั้งไม่ไกลจากตรงนี้ก็มีผืนน้ำ ทิวทัศน์ยามค่ำคืนก็งดงาม”
“เมื่ออากาศร้อนก็สามารถตั้งโต๊ะด้านนอกได้อีกสองสามตัว รับลมชมวิว ดื่มเหล้าพูดคุยสัพเพเหระก็ดีไม่น้อย“
แววตาของซ่งรั่วเจินเป็นประกายขึ้นมา ปิ้งย่างเหมาะกับฤดูร้อนที่สุดแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...