เสิ่นหวยอันฟังคำพูดของผู้ดูแลแล้ว ก็หันไปมองซ่งปี้อวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเอ่ยว่า “สกุลซ่ง? สกุลซ่งไหน?”
“แน่นอนว่าคือจวนแม่ทัพซ่ง” ผู้ดูแลตอบอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อซ่งปี้อวิ๋นได้ยินว่าสกุลซ่งเองก็หมายตาร้านค้าร้านนี้เช่นกัน แววตาก็ฉายแววความโกรธขึ้นมา
ตอนนี้กิจการของสกุลซ่งรุ่งเรืองดุจดวงอาทิตย์ขึ้นกลางฟ้า พวกเขาเห็นแล้วก็เรียกได้ว่าอิจฉาตาร้อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นครอบครัวเดียวกันแท้ ๆ แต่ตั้งแต่แยกบ้านออกไป ความแตกต่างระหว่างพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เดิมคิดว่าเมื่อซ่งหลินตายในสนามรบ ในที่สุดพวกเขาก็จะมีโอกาสแซงหน้าสกุลซ่งได้ ยังไงซะหญิงม่ายที่มีลูกหลายคน สองคนในนั้นยังคงเป็นภาระค่าใช้จ่าย จึงไม่สามารถแบกรับสกุลซ่งที่ใหญ่โตเช่นนี้ได้
ใครจะคิดว่า พวกเขายังไม่ทันได้ลงมือ ซ่งรั่วเจินก็ไปหาฉู่อ๋องเป็นที่พึ่ง ทำให้พวกเขาจำต้องหยุดการเคลื่อนไหวไว้ก่อน
ตอนนี้ซ่งหลินกลับมาแล้ว สกุลซ่งก็ยิ่งรุ่งเรืองดุจดวงอาทิตย์ขึ้นกลางฟ้า เรียกได้ว่าเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง!
ช่วงนี้เมื่อเห็นกิจการของสกุลซ่งยิ่งขายดีขึ้นเรื่อย ๆ นางก็อดกลั้นไม่ได้อีกต่อไป นางจึงตั้งใจไปสืบถามจนรู้ว่าร้านปิ้งย่างที่เปิดใหม่นั้นกิจการดีเพียงใด
ได้กำไรวันละมากมายจริงๆ!
นางคิดว่าปิ้งย่างนั้นไม่ได้ยากอะไร ก็แค่เตรียมของบางอย่างแล้วนำไปย่างให้สุกก็พอ ดังนั้นนางจึงเตรียมที่จะซื้อหอสุราแห่งหนึ่งเพื่อเปิดร้านปิ้งย่าง
ไม่เพียงแค่จะเปิด แต่ยังต้องใหญ่กว่าร้านค้าของสกุลซ่งด้วย!
นางตั้งใจเลือกทำเลที่มีระยะห่างออกไปแห่งหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้รสชาติจะสู้กับสกุลซ่งไม่ได้ แต่ลูกค้าที่อยู่ตรงนี้ก็จะสะดวกกว่า คิดว่ากิจการคงจะไม่แย่เท่าไรนัก
ใครจะคิดว่าตอนนี้จะมาเจอกับคนสกุลซ่ง สกุลซ่งมีร้านค้ามากมายขนาดนั้นแล้วยังไม่พอ ยังจะวิ่งโร่มาที่นี่เพื่อซื้อหอสุราอีก คงจะไม่ได้มีความคิดเดียวกับนางหรอกใช่หรือไม่?
“สรุปก็คือพวกเจ้ามาช้าไปหนึ่งก้าว ร้านค้าร้านนี้ ตั้งแต่สองวันที่แล้วพวกเราก็หมายตาเอาไว้แล้ว พวกเจ้าไปดูที่อื่นเถิด” ซ่งปี้อวิ๋นกล่าวด้วยเสียงเย็นชา
หากไม่ใช่เพราะว่าเมื่อสองวันที่แล้ว เงินของนางไม่พอวันนี้เสิ่นหวยอันเพิ่งจะช่วยนางหามาได้ นางก็คงไม่รอมาจนถึงวันนี้หรอก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...