ไม่รู้ก็ช่างเถอะ บัดนี้รู้แล้ว ย่อมไม่สามารถปล่อยให้ข่าวนี้หลุดรอดไปได้
เสิ่นหวยอันได้ยินถ้อยคำนี้แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป ครู่ต่อมามองซ่งรั่วเจินแวบหนึ่ง เขานับว่ามองออกแล้ว ฉู่มู่เหยาไม่เพียงมีความสัมพันธ์อันดีกับนางมาก ถึงขั้นยังเชื่อฟังคำพูดของนางอีกด้วย
หากนางก่อกวนอยู่ตรงกลาง น่ากลัวว่าความยากที่เขาจะได้อยู่ร่วมกับฉู่มู่เหยาก็เพิ่มขึ้นมาก
บัดซบ! เหตุใดบังเอิญไปล่วงเกินผู้หญิงคนนี้ได้เล่า!
“พี่สะใภ้ วันนี้เจ้ามาที่นี่ทำอันใด?” ฉู่มู่เหยาเอ่ยถาม
“เล็งร้านอาหารร้านนี้ไว้จึงตั้งใจมาซื้อ ช่วงนี้หม่อมฉันเปิดร้านปิ้งย่าง ท่านรู้แล้วหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินคลี่ยิ้มบางๆ
ฉู่มู่เหยาพยักหน้า “วันนี้ตอนข้าออกจากบ้านบังเอิญได้ชิมปิ้งย่างของร้านเจ้า รสชาติยอดเยี่ยมมาก!”
“ท่านตั้งใจให้คนไปซื้อหรือ?”
ซ่งรั่วเจินแปลกใจ ทว่านางรู้ฉู่มู่เหยาเองก็ชอบสิ่งเหล่านี้ ก่อนหน้านี้ยามเปิดร้านเดิมทีก็อยากส่งไปให้นางชิม ทว่าได้รู้ว่านางบาดเจ็บ ฉู่อวิ๋นกุยจึงนำไปกินหมดแล้ว
“วันนี้บังเอิญท่านน้าไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่แล้วนำติดไปด้วย ตอนข้าไปพบเสด็จแม่ก็บังเอิญเห็นเข้า พวกเขายังชื่นชมว่าร้านของเจ้าเปิดได้ดีมากจริงๆ”
ฉู่มู่เหยากะพริบตา นางรู้ดีว่าเสด็จพี่ต้องการสู่ขอพี่สะใภ้กลับไป หากไม่ใช่เพราะเสด็จแม่ ป่านนี้คงแต่งงานกันไปตั้งนานแล้ว
พูดถึงตรงนี้ นางคิดว่าอุปนิสัยของซ่งรั่วเจินช่างสุขุมโดยแท้ หากเปลี่ยนเป็นแม่นางคนอื่น จะต้องมิอาจทนไหวและแต่งงานเข้ามาโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดตั้งนานแล้ว นางกลับไม่ว้าวุ่นไม่ลนลาน ไม่มีความรู้สึกอยากแต่งงานแม้แต่น้อย
เป็นเพราะสาเหตุนี้ นางถึงเลื่อมใสมากยิ่งขึ้น คิดว่าคุณหนูในห้องหอสมควรเป็นเช่นนี้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...