“พี่สะใภ้ ข้ารู้ว่าท่านกังวลเรื่องอะไร เรื่องอย่างการทดแทนบุญคุณช่วยชีวิตด้วยชั่วชีวิตที่เหลือ สายตามู่เหยาคงไม่แย่ถึงขั้นนั้นหรอกน่า”
“เรื่องมงคลของนางจะต้องเป็นการตัดสินพระทัยของเสด็จพ่อเสด็จแม่ ข้าไปสืบความเกี่ยวกับเสิ่นหวยอันผู้นี้มาแล้ว เป็นแค่ลูกอนุคนหนึ่ง”
ฉู่อวิ๋นกุยส่ายหน้าเบาๆ ความจริงตอนแรกหลังเกิดเรื่อง เขาก็ไปสืบความมาแล้วโดยเฉพาะ
ฐานะของตระกูลเสิ่นเดิมก็ไม่คู่ควรแต่งงานกับองค์หญิง ถ้าเป็นลูกภรรยาเอกก็แล้วไป แต่กลับเป็นลูกอนุคนหนึ่ง นั่นเป็นความฝันลมๆ แล้งๆ เลยชัดๆ!
ซ่งรั่วเจินรู้ว่าทุกคนให้ความสำคัญกับฐานะลูกภรรยาเอกหรือลูกอนุ แต่เพื่อให้สามารถลืมตาอ้าปากได้ ไม่ว่าต้องใช้วิธีการแบบไหน ลูกอนุก็สามารถทำออกมาได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ ดูจากเสิ่นหวยอันที่ได้เจอในวันนี้ นิสัยใจคอก็ใช่ว่าจะดี
เดิมทีฉู่อวิ๋นกุยไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจเลยสักนิด เขารู้สึกว่าสายตาของมู่เหยายังใช้ได้อยู่ คนก็เฉลียวฉลาด ไม่มีทางถูกหลอกลวงได้โดยง่าย
แต่เห็นว่าซ่งรั่วเจินไม่แสดงท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธ ในใจก็ค่อยๆ สงสัยขึ้นมา “ไม่หรอกมั้ง? อยู่ดีๆ ก็ตาบอดขึ้นมางั้นรึ?”
ฉู่จวินถิงปรายตามองฉู่อวิ๋นกุยอย่างรังเกียจแล้วกล่าวกับซ่งรั่วเจินว่า “ข้าจะให้คนไปสืบเรื่องเกี่ยวกับเสิ่นหวยอัน ไม่ปล่อยให้เขามาหลอกลวงมู่เหยา”
ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “พวกท่านเป็นพี่ชายนาง ใส่ใจบ้างถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องดีเพคะ”
พี่ชายแท้ๆ พูดเอง ถึงอย่างไรก็คงมีประโยชน์บ้าง
เมื่อคนทั้งสามไปถึงร้านอาหารก็ได้ยินเสียงอึกทึกดังมาจากด้านหน้า ทั้งยังเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง
“ฮวนเอ๋อร์?”
ซ่งรั่วเจินมองคนที่อยู่บริเวณห่างออกไปไม่ไกลด้วยความประหลาดใจระคนยินดี นั่นคือกู้ฮวนเอ๋อร์ญาติผู้น้องของนางเอง
“ญาติผู้พี่ ไฉนจึงบังเอิญเช่นนี้!”
พอกู้ฮวนเอ๋อร์เห็นซ่งรั่วเจิน ใบหน้าก็พลันแสดงความยินดีออกมา ยิ้มหวานพลางวิ่งเหยาะๆ เข้ามาหา สายตาไปตกลงบนร่างฉู่อวิ๋นกุยที่อยู่ข้างๆ โดยไม่รู้ตัว แล้วเก็บกลับไปอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...