“คารวะท่านอ๋องทั้งสอง หม่อมฉันไม่ทราบว่าเป็นพวกท่าน หวังว่าพวกท่านจะไม่ถือสา”
“ไม่เป็นไร”
ฉู่จวินถิงและฉู่อวิ๋นกุยล้วนไม่ถือสาอย่างเห็นได้ชัด เดิมก็มากินข้าวที่ร้านอาหาร นอกจากนี้ แม่นางผู้นี้ก็ไม่ได้ทำผิดอันใด
เมื่อฉู่อวิ๋นกุยได้ยินชื่อหยวนชิงก็เลิกคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว สายตากวาดไปทางกู้ฮวนเอ๋อร์ สองคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรต่อกัน?
“หวังเสวี่ย เจ้าอย่าพูดเหลวไหล!”
กู้ฮวนเอ๋อร์ได้ยินก็ร้อนใจ หยวนชิงมีใจให้นางจริงๆ แต่นางชอบอวิ๋นอ๋องคนเดียว
วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะถูกหวังเสวี่ยลากมา นางก็ไม่อยากมาเลยสักนิด บัดนี้มาแล้ว นางจึงคิดว่าจะหาโอกาสคุยกับหยวนชิงให้ชัดเจน หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันในภายหลัง
หวังเสวี่ยได้ยินอย่างนั้นก็คล้ายจะตระหนักได้ว่าตนเองพูดจาผิดไปจึงรีบปิดปาก กล่าวว่า “หม่อมฉันผิดเองเพคะ หม่อมฉันพูดจาผิดไป ท่านอ๋องอย่าเข้าใจฮวนเอ๋อร์ผิดนะเพคะ”
แต่เมื่อเห็นภาพนี้ พวกซ่งรั่วเจินก็มุ่นคิ้วอย่างอดไม่ได้
นี่มันอะไรกัน?
ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งมีพิรุธ ยิ่งอธิบายก็ยิ่งแลดูร้อนตัว?
ประกอบกับมีเสียงร้องเรียกดังมาจากด้านหลังพอดี “ฮวนเอ๋อร์ หวังเสวี่ย พวกเจ้ารีบมาเร็วเข้า เหลือแค่พวกเจ้าแล้วนะ!”
ฉู่อวิ๋นกุยเหลือบมองคนด้านหลัง แล้วกล่าวว่า “เจ้ารีบไปเถอะ ทุกคนรอพวกเจ้าอยู่”
กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าสีหน้าของฉู่อวิ๋นกุยค่อนข้างเย็นชา คล้ายกับไม่พอใจการปรากฏตัวของนาง ทันใดนั้นก็ใจแป้วไปมากโข เดิมนางคิดว่าในเมื่อบังเอิญมาเจอกันเช่นนี้ มิสู้ใช้โอกาสนี้ไปกินข้าวด้วยกันกับพวกญาติผู้พี่เสียเลยดีกว่า
แต่อวิ๋นอ๋องดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบนางมาโดยตลอด นางเองก็จนปัญญาจึงได้แต่ตอบรับ “เพคะ ท่านอ๋อง”
กู้ฮวนเอ๋อร์ว่าแล้วก็ลากหวังเสวี่ยจากไปพร้อมกัน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...