“ข้าว่าช่วงหลายวันหลังจากนี้พวกเราอย่าเพิ่งมาเจอกันชั่วคราวจะดีกว่า จะได้ไม่ถูกจับพิรุธได้ ไม่อย่างนั้นที่พยายามมาทั้งหมดคงได้สูญเปล่ากันพอดี”
“ไม่นะ?” ซ่งปี้อวิ๋นรู้สึกจิตใจไม่สงบ เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกว่าซ่งรั่วเจินจะเยี่ยมยอดตรงไหน ถึงจะเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่กลับมีนิสัยคร่ำครึ นางจึงไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา
แต่ว่าช่วงที่ผ่านมาซ่งรั่วเจินเปลี่ยนไปมากจนน่าตกใจจริงๆ
“พวกเราซื้อร้านอาหารไปแล้วนะ ตอนนี้จะทำอย่างไรเล่า?”
“ก็ต้องเปิดต่อไปอยู่แล้ว” เสิ่นหวยอันครุ่นคิดพลางกล่าว “เรื่องนี้ยกให้เจ้าก็แล้วกัน ถึงยามนั้นต่อให้องค์หญิงถามขึ้นมาก็บอกว่าเป็นการค้าขายที่พวกเราร่วมมือกันก็พอแล้ว”
ซ่งปี้อวิ๋นเห็นว่าเสิ่นหวยอันยังคงให้นางดูแลร้านก็ค่อยวางใจลงได้
“วันนี้โชคดีที่พวกเราแย่งร้านอาหารมาได้ ไม่อย่างนั้นทันทีที่สกุลซ่งเปิดร้านปิ้งย่างทางฝั่งนี้ กิจการของพวกเราคงแย่แล้ว” ซ่งปี้อวิ๋นกล่าวอย่างได้ใจ
เสิ่นหวยอันขมวดคิ้วน้อยๆ “เจ้าบอกว่าจะแย่งคนจากร้านของตระกูลซ่งมาไม่ใช่หรือ? หรือว่าทำไม่สำเร็จ?”
“วางใจเถอะ เรื่องนี้ข้าจัดการเอง จะต้องไม่มีปัญหาแน่นอน!”
ซ่งปี้อวิ๋นแย้มยิ้มบาง ในใจกลับครุ่นคิดว่าตระกูลซ่งช่างมีฝีมือนัก สัญญาขายตัวของคนในร้านล้วนอยู่ในมือพวกเขา ดังนั้นจึงไม่อาจแย่งคนเหล่านี้มาได้
แต่นางให้คนไปจับตามองใกล้ๆ นั้นอยู่บ่อยๆ เพื่อดูว่าพวกเขาทำอย่างไรบ้าง ไม่ยากเลยสักนิด!
อันที่จริง นางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก็แค่ย่างเนื้อ หลังจากนั้นก็โรยของจำพวกเกลือกับพริกลงไปนิดหน่อยเท่านั้นเองไม่ใช่หรือ? แค่ทำส่งๆ ก็ทำออกมาได้แล้ว!
ถึงตอนนั้นรอจนกิจการของพวกนางไปได้สวย คนในตระกูลก็จะต้องมองนางในมุมใหม่ด้วยเหมือนกัน!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...