ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น นางกำนัลในตำหนักจงเฟยก็พลันเข้ามา
“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”
นางกำนัลก้มกายคำนับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ แต่ในมือกลับถือเซียนบุปผาเอาไว้หนึ่งองค์
“แม่นางของบ่าว ให้บ่าวนำเซียนบุปผามาให้ฮองเฮา ขอเพียงทรงบูชาด้วยใจที่ตั้งมั่น ก็จะสามารถเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้เยาว์วัยตราบนานเท่านาน”
เมื่อวาจาถูกเปล่งออกมาเช่นนั้น ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ย ต่างพินิจพิจารณาเซียนบุปผาที่อยู่ตรงหน้า ต้องบอกเลยว่ารูปปั้นนี้ถูกทำขึ้นได้สมจริงยิ่งนัก เซียนบุปผานั้นก็งามวิจิตรด้วยรูปลักษณ์อันเย้ายวนตา
“นี่มันเซียนบุปผาอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
แววตาของฮองเฮาปรากฏแววประหลาดใจวาบหนึ่ง ในใจกับยิ่งรู้สึกสงสัย จงเฟยมีน้ำใจงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ จึงยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่นาง?
นางสนมวังหลัง ต่างกำลังช่วงชิงแข่งขัน หวังเพียงให้ตนสามารถงามล้ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ต้องตาในคราแรกเห็น จงเฟยในวันนี้ผุดผ่องไปทั้งตัวยิ่งกว่าทุกวัน แค่ฮ่องเต้ได้เห็น ราตรีนี้ย่อมต้องพลิกป้ายชื่อของนางเป็นแน่
หากความลับที่ทำให้จงเฟยงดงามขึ้นเป็นเพราะการบูชาเซียนบุปผาจริง แล้วเหตุใดจึงยอมนำวิธีนั้นบอกแก่นางในยามนี้เล่า? คิดวางกลอุบายสิ่งใดกันแน่?
“นี่คือเซียนโบตั๋น”
“แม่นางบอกว่าฮองเฮาคือประมุขแห่งวังหลัง อีกทั้งทรงมีเมตตาต่อนางมาโดยตลอด บัดนี้มีของดีจึงปรารถนาจะมอบให้ฮองเฮาเพคะ”
ฮองเฮาโบกมือ “ลงไปเถิด”
แม่นมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รับเซียนโบตั๋นเอาไว้ และพินิจดูอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะอดอุทานมิได้ “แม่นาง ดูไปแล้วช่างสมจริงยิ่งนัก ดวงตาคู่นั้นราวกับกำลังจ้องมองพวกเราอยู่จริงๆ”
ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ยพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอยู่รอบหนึ่ง ดูไปแล้วหาใช่ของธรรมดาไม่
“หรือว่าจงเฟยคิดจะให้หลิงเชี่ยนเอ๋อร์แต่งงานกับเช่ออ๋องจริง ๆ เกรงว่าท่านทรงทราบเรื่องนี้เข้าจะไม่พอพระทัย จึงตั้งใจนำของมาถวายเพื่อขออภัย?” ลู่หมิ่นฮุ่ยกล่าวด้วยความฉงน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...