ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 38

ยาเกือบทุกขวดนั้นถูกเคลือบไปด้วยยาพิษ แต่เป็นพิษจากยางน่อง พิษพวกนี้ไม่มีผลต่อสุขภาพของคน มันมีผลอยู่เพียงอย่างเดียวคือช่วยในการช่วยให้แผลสมานอย่างรวดเร็วและทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้

สตรีหนึ่งนาง ถ้าหากมีรอยแผลเป็นแล้ว เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อการแต่งงานอย่างใหญ่หลวง

ไม่ต้องพูดไปไกล พูดถึงเรื่องช่วงนี้ที่ฝ่าบาทต้องการเลือกสนมให้กับองค์ชายเจ็ด ถ้าร่างกายของนางมีแผลเป็นก็คงไม่ต้องนึกถึงเรื่องนี้อีกตลอดไป

ถึงแม้ซูจื่ออวี๋จะไม่ได้สนใจเรื่องการแต่งงานกับราชวงศ์และลูกอนุอย่างนางเหมือนจะไม่เหมาะกับสิ่งนี้ แต่นางก็ไม่สามารถปล่อยให้ฮูหยินซูมีความสุขได้ไม่ใช่หรือ?

ซูจื่ออวี๋หัวเราะเสียงเย็น พิษพวกนี้ยังเทียบไม่ได้กับพิษที่ส่งไปกับกล่องอาหารของซูจื่อเยียนก่อนหน้านี้

ซูจื่ออวี๋เปิดขวดเหล่านั้นและนำเอามาผสมผสานกัน สุดท้ายนางก็ได้ยาตลับเล็กๆสีเขียวออกมาก่อนจะยิ้มด้วยความพออกพอใจ

ใช้พิษแก้พิษ ใช้ยาแก้ยา นางทำได้ตั้งแต่อายุหกขวบแล้ว

เมื่อได้ยามาแล้ว ซูจื่ออวี๋ก็ได้หันหลังเข้าหากระจกทองเหลืองและค่อยๆถอดเสื้อตัวขาวด้านในออกจนเหลือแต่เพียงกระโปรงเฮอจื่อตัวเล็กๆด้านในเพื่อเตรียมที่จะใส่ยา

เพียงแค่นางถอดเสื้อตัวนี้ออก ซูจื่ออวี๋ก็มีบางอย่างผิดปกติ

ซูจื่ออวี๋เงยมองขึ้นไปบนหลังคา พร้อมทั้งสวมชุดที่นางถอดไว้ทั้งพูดว่า “ในเมื่อมาแล้ว ทำไมไม่เข้ามานั่งข้างใน? เข้ามาลักลอบเข้ามาในจวนเสนาบดีกลางดึก แล้วถูกคนอื่นเห็นเข้าเจ้าจะว่ายังไง?”

ชายชุดดำบนหลังขาค้างแข็งไป เขาเพิ่งจะลงมา เมื่อยกกระเบื้องขึ้นและเห็นว่าซูจื่ออวี๋ไม่เรียบร้อยจึงได้ปิดกระเบื้องกลับลงไป ด้วยวรยุทธของเขาแล้ว ซูจื่ออวี๋จะพบร่องรอยของเขาได้อย่างไร?

หรือว่าสตรีผู้นี้ จริงๆนางแล้วมีฝีมือที่ร้ายกาจซุกซ่อนเอาไว้อยู่?

ซูจื่ออวี๋ไม่ได้ทายาต่อและชายชุดดำก็ไม่แอบดูอีกต่อไป ทั้งสองต่างหยุดชะงักกันไปชั่วขณะ

สุดท้ายแล้วชายชุดดำคนนั้นก็กระโดดเข้ามาทางหน้าต่าง

เมื่อชายชุดดำได้เข้ามาถึงก็เห็นว่าซูจื่ออวี๋ไม่ได้แต่งหน้าแต่ใบหน้าเล็กๆของนางกลับเปล่งปลั่งงดงาม

ชายชุดดำกล่าวกับตัวเอง ที่แท้นางก็มีหน้าตาเช่นนี้ เมื่อเทียบกับวันที่นางแต่งกายแต่งหน้านั้นราวกับคนละคน

ซูจื่ออวี๋นั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่มีความตกใจและยังมัวแต่วุ่นวายกับการทายาบนแขนเล็กๆของตนเอง

ชายชุดดำมองไปยังแขนขาวนวลของนางที่เต็มไปด้วยรอยช้ำที่มาจากการป้องกันตัว เหมือนกับเป็นรอยบาดแผลจากการขัดขืนจากการแส้และการถูกโบยตี บาดแผลมีทั้งลึกทั้งตื้น มองดูแล้วคงจะถูกตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเป็นเวลานาน

ชายในชุดดำอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าหากสตรีผู้นี้มีวิทยายุทธซ่อนเอาไว้จริงๆ นางจะทนทุกข์ทรมานและถูกทุบตีแบบนี้ไปทำไม?

ซูจื่ออวี๋ทั้งทายาทั้งพูดออกมาโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามอง “ว่าอย่างไร? อยากช่วยข้าทายาหรือ? เอาสิ ข้าเอื้อมไปข้างหลังไม่ถึงพอดี”

หลังจากที่ซูจื่ออวี๋พูดจบแล้วนางก็ปลดสายชุดด้านในสีขาวของตัวเองออก ใบหน้าของชายชุดดำคนนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงขึ้นมาทันใด เมื่อเห็นว่าชุดกำลังจะหลุดออกจากกัน ชายในชุดดำก็หันหลังหนีโดยไม่รู้ตัวและบริภาษออกมาอย่างมีน้ำโห “ไร้ยางอาย”

เมื่อซูจื่ออวี๋เห็นท่าทางของเขาก็ยิ้มขึ้นมาในทันที “จิ๊ กลางค่ำกลางคืนท่านลอบเข้าห้องสตรีเพื่อลักหยกขโมยบุปผา กลับมาบอกว่าข้าไร้ยางอายอีก ท่านช่างไม่มีเหตุผล ”

บุรุษชุดดำถูกพูดใส่เช่นนี้ก็รู้สึกพูดไม่ออกขึ้นมาในทันที

ซูจื่ออวี๋ลูบแขนของตัวเองทั้งยังถามออกไปอย่างเฉื่อยชา “พูดมา เจ้าเป็นใคร มาหาข้าด้วยเหตุอันใด?”

ชายในชุดดำครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหันไปมองซูจื่ออวี๋และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หอหว่างเซิง หมิงโหลว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ