“ข้า...ข้าก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนโง่เหมือนกัน”
ซุนฟางเอ๋อร์หัวเราะเบา ๆ “กล้าบอกด้วยว่าตนไม่ใช่คนโง่ มีเพียงคนโง่เท่านั้นแหละที่จะบอกว่าตนเองไม่ใช่คนโง่”
“เช่นนั้นเจ้าเป็นคนโง่หรือไม่ล่ะ?” เซี่ยหลินถาม
ซุนฟางเอ๋อร์ถึงกับชะงัก “เจ้า…”
เซี่ยหลินกล่าวอย่างไม่พอใจ “ท่านเป็นคนสวย เหตุใดถึงพูดจาไม่ดีล่ะ? แม่ของข้าเคยสอนว่าไม่ควรล้อเลียนข้อบกพร่องของคนอื่น เพราะพวกเขาจะรู้สึกไม่ดี”
ซุนฟางเอ๋อร์เห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายทั้งสดใสและอ่อนโยน หากไม่พูดอะไรโง่ ๆ ออกมา นางคงไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นคนโง่
“ก็ได้ ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรเรียกเจ้าว่าคนโง่” ซุนฟางเอ๋อร์ขอโทษ
เซี่ยหลินยิ้มทั้งที่คิ้วยังขมวด “ข้ายกโทษให้ท่าน”
ซุนฟางเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นเขายิ้มอย่างไร้เดียงสาและเป็นธรรมชาติ
เซี่ยหลินเดินออกไป เมื่อจื่ออันกลับมา ทุกคนก็เริ่มทานอาหาร เนื่องจากสถานการณ์พิเศษในคืนนี้ จ้วงจ้วงจึงเรียกให้เสี่ยวซุน ตาวเหล่าต้า ฉินจือ และฉยงหวามากินข้าวด้วยกันทั้งหมด
มื้อนี้ถูกกำหนดไว้ว่าการรับประทานจะไม่เป็นไปอย่างสงบ
หลังจากกินไปครึ่งทาง ก็มีเสียงอาวุธปะทะกันดังขึ้นจากด้านนอกพระราชวัง
เซี่ยหลินและเสี่ยวซุนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ตาวเหล่าต้าเอื้อมมือไปจับด้ามมีด แต่จื่ออันออกคำสั่ง “นั่งลง กินต่อไป”
ผู้คนที่บุกเข้าตำหนักฮุ่ยชิงต่างก็เป็นหน่วยกล้าตายที่กุ้ยไท่เฟยส่งมา จื่ออันได้จัดเตรียมกำลังคนเพื่อต่อต้านแล้ว การต่อสู้กับหน่วยกล้าตายเหล่านี้ถือเป็นการต่อสู้ถึงขั้นเป็นตายกันไปข้าง แม้ว่าตาวเหล่าต้าจะมีพละกำลังที่ดุร้ายน่าทึ่ง แต่เขาไม่อาจทานทนต่อการโจมตีที่รุนแรงได้ นอกจากต้องใช้เวลาสักพัก ทว่าการต่อสู้ที่ยืดเยื้อไม่เป็นผลดี
ทุกคนยังคงกินต่อไปโดยที่อารมณ์ไม่มั่นคง บางครั้งเสียงกรีดร้องก็ดังมาจากศัตรูหรือคนพวกเดียวกันเอง เสี่ยวซุนตื่นตระหนกจนกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวหลายครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...