ใครบ้างไม่อยากให้เซี่ยจื่ออันรักษาโรคระบาด? แน่นอนว่าต้องเป็นฝ่ายที่ฝักใฝ่ในสงคราม
เพราะหลังจากที่เซี่ยจื่ออันรักษาโรคระบาดจนหาย เป่ยโม่จะริเริ่มทำสงครามกับต้าโจวได้อย่างไร? นี่ไม่เท่ากับตอบแทนความเมตตาด้วยความเกลียดชังหรอกหรือ?
จื่ออันเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากได้ยินคำเตือนขององค์หญิงอัน นางก็ยิ้มตอบเบา ๆ
งานเลี้ยงต้อนรับของเป่ยโม่นั้นค่อนข้างแปลกตา ไม่มีอาหารเสิร์ฟแยก แต่เป็นการจัดเลี้ยงในรูปแบบโต๊ะจีนที่คนนับสิบนั่งล้อมโต๊ะกลมและรับประทานอาหารร่วมกัน
จักรพรรดิแห่งเป่ยโม่ใช้รูปแบบการจัดเลี้ยงดังกล่าวเพื่อให้มอบความบันเทิงแก่แม่ทัพทั้งหลายอย่างทั่วถึง ความหมายก็คือ แม้ว่าข้าจะเป็นจักรพรรดิ แต่ข้าก็แบ่งปันความสุขและรสนิยมกับทุกคน
เมื่อเวลาผ่านไป ลักษณะการจัดเลี้ยงเช่นนี้ก็กลายเป็นมาตรฐานสำหรับงานเลี้ยงต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
หวงไท่โฮ่วก็ปรากฏตัวในคืนนี้ด้วยเช่นกัน อาภรณ์ออกงานของหวงไท่โฮ่วและฮองเฮาของประเทศนี้พิถีพิถันเป็นพิเศษ พวกนางสวมอาภรณ์สีเหลืองตลอดทั้งชุด ในขณะที่องค์จักรพรรดิทรงอาภรณ์เป็นเสื้อคลุมมังกรสีดำ
เมื่อหวงไท่โฮ่วพบกับมู่หรงเจี๋ย นางก็เรียกเขาเข้ามาแล้วตรัสอย่างใจดีว่า “เจ้านั่นเอง เจ้าไม่ได้มาพบข้านานทีเดียว ในเมื่อพบหน้ากันแล้ว ข้าคงต้องลงโทษเจ้าด้วยการสั่งร่ำสุราสองจอก”
น้ำเสียงของนางบ่งบอกถึงความเป็นหญิงชราที่เจ้าสำราญ
มู่หรงเจี๋ยหัวเราะพลางพูดว่า “ทรงไม่ยินดีที่จะพบกระหม่อมหรือ?”
“ยินดี ยินดี!” หวงไท่โฮ่วตบหลังพระหัตถ์ “เจ้ามานั่งใกล้ ๆ ข้าเถิด ชายาของเจ้าเป็นใครกัน? เหตุใดยังไม่มาหาข้า?”
จื่ออันซึ่งยืนอยู่ข้างมู่หรงเจี๋ยตั้งแต่แรกก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เซี่ยจื่ออันถวายพระพรหวงไท่โฮ่ว ขอพระองค์ทรงอายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”
“ดี!” หวงไท่โฮ่วมองนางด้วยความชื่นชมบนใบหน้า “ไม่เลว นางทั้งดูดีและฉลาดหลักแหลม วันหลังก็แวะมาหาข้าที่ตำหนักบ้างล่ะ”
“เพคะ หวงไท่โฮ่ว!” ตอนนี้จื่ออันแค่อยากรอคำสั่งของจักรพรรดิแล้วออกเดินทางไปยังบริเวณที่มีโรคระบาดทันที เมื่อได้ยินความกระตือรือร้นของหวงไท่โฮ่ว นางเพียงตอบรับตามมารยาท
อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิและฮองเฮาไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ ทว่ามอบหมายให้อ๋องฉีเป็นเจ้าภาพแต่เพียงผู้เดียว
หนำซ้ำวันนี้ยังมีขุนนางมาร่วมเพียงไม่กี่คน ฉากนี้ทำให้หวงไท่โฮ่วตกใจ
นางสั่งให้คนไปเชิญพวกเขา แต่จักรพรรดิกลับสั่งให้คนมารายงานว่าเขาไม่ค่อยสบาย เช่นเดียวกันกับฮองเฮาเฉา
ใบหน้าของหวงไท่โฮ่วซีดเจื่อน ถึงกระนั้นนางยังคงยิ้มและทำตัวเป็นเจ้าภาพที่ดีให้กับงานเลี้ยงต้อนรับนี้ร่วมกับอ๋องฉีต่อไป จากนั้นหวงไท่โฮ่วก็ออกคำสั่งเป็นการส่วนตัว เชิญผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และพระชายาแห่งต้าโจวเดินทางไปยังพื้นที่โรคระบาดเพื่อรักษาผู้คนในเป่ยโม่
หากได้รับความลำบากประการใด ให้บอกเจ้าหน้าที่รัฐว่าเป็นความประสงค์ขององค์จักรพรรดิ
ทุกคนรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ความประสงค์ของจักรพรรดิเป่ยโม่ แต่เป็นเพียงความปรารถนาส่วนตัวของหวงไท่โฮ่ว เมื่อถึงเวลานั้น จักรพรรดิเป่ยโม่สามารถกลับกลอกได้ว่าเขาไม่เคยอนุญาตให้เซี่ยจื่ออันเข้าสู่พื้นที่โรคระบาด
เขาฝากความประสงค์ผ่านมาทางหวงไท่โฮ่ว หรือหวงไท่โฮ่วเป็นผู้กล่าวเองก็ไม่อาจทราบได้
แต่พวกเขารู้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น คือผู้คนในราชวงศ์เป่ยโม่ล้วนหลอกลวง
หลังจากที่หวงไท่โฮ่วเชิญให้จื่ออันไปยังพื้นที่ระบาดเพื่อให้ความร่วมมือในการรักษาประชาชน มู่หรงเจี๋ยก็พาจื่ออันออกไปโดยตรง รีบร้อนจนเผลอทำถ้วยหล่นด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นชาวต้าโจวก็มารวมตัวกันเพื่อหารือ
อ๋องฉีไม่มีความกล้าพอที่จะไล่ตามออกไป ทำได้เพียงกลับไปที่จวนด้วยความเศร้าหมอง หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วยาม เขาก็ขอให้คนส่งของบางอย่างไปที่ศาลาเฉาเหวิน ทั้งยังฝากข้อความว่าเพื่อเป็นการต้อนรับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อคนเหล่านั้นไปที่ศาลาเฉาเหวิน คนที่นั่นบอกว่ามู่หรงเจี๋ยและคนอื่น ๆ ไม่ได้กลับมา หลังจากตรวจสอบจนทั่ว ถึงพบว่าสิ่งของที่เพิ่งขนย้ายเข้าไปที่นั่นก็ถูกย้ายออกไปแล้วภายในวันนี้เช่นเดียวกัน
ไม่มีใครคาดคิดว่ามู่หรงเจี๋ยจะจากไปดื้อ ๆ ไม่มีแม้แต่คำบอกกล่าวจากอีกฟากหนึ่งของประตูเมือง สันนิษฐานว่าพวกเขาอาจจากไปเพราะความไม่พอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...