หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว ถนนที่นำไปสู่หมู่บ้านมู่ไจ้ก็ปกคลุมไปด้วยดินโคลน สะพานจวนพังแหล่มิพังแหล่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เข้าไปถนนก็ขาด เพื่อให้แก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จึงอยู่ภายในหมู่บ้านมู่ไจ้ ช่วยทำความสะอาดดินโคลนแล้วซ่อมแซมสะพานและถนนหลวง
แผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้หมู่บ้านมู่ไจ้มีผู้เสียชีวิตถึงสามร้อยราย บาดเจ็บกว่าเก้าร้อยราย เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถอพยพออกไปรักษาตัวได้ ทำให้ผู้บาดเจ็บมากกว่าสองร้อยรายจากเก้าร้อยเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในท้ายที่สุดเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายลงไปอีก เจ้าหน้าที่และทหารไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องอ้อมไปใช้เส้นทางที่ยาวขึ้นเพื่อตามหมอ
ต่อมา พวกเขาเชิญหมอเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว แต่ใครจะคิดว่าหมอจะล้มป่วยในวันที่สามหลังจากเข้ามาในหมู่บ้าน
หมอท่านนี้ป่วยด้วยโรคระบาดมาจากในเมือง ก่อนเข้ามาที่หมู่บ้านมู่ไจ้ เขาไม่มีอาการใด ๆ แม้แต่ตัวหมอเองก็ไม่รู้เรื่องนี้
หลังจากอยู่ในหมู่บ้านมู่ไจ้ได้สามวัน เขาได้ออกไปพบปะและสัมผัสกับผู้บาดเจ็บเกือบทั้งหมด ผู้บาดเจ็บเหล่านี้ไม่ภูมิต้านทานที่เพียงพอ ทำให้ชาวบ้านมากกว่าครึ่งติดเชื้อด้วยโรคนี้เช่นกัน
นั่นเป็นเพราะนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรค จักรพรรดิได้ออกพระราชกฤษฎีกาว่าทุกหมู่บ้านและพื้นที่ที่มีโรคระบาด จะต้องปิดเมืองจากโลกภายนอกและตัดขาดการสัญจรทั้งหมด ไม่อนุญาตให้หมอออกไปรักษาโรคระบาดตามความประสงค์ และหมอจะต้องได้รับมอบหมายจากเจ้ากรมท้องถิ่น
กรมฮุ่ยหมินในสังกัดของราชสำนักเป็นผู้ดูแลกลุ่มแพทย์ ในสถานที่ต่าง ๆ จะมีที่ว่าการของกรมฮุ่ยหมินตั้งอยู่ เช่นเดียวกับโรงหมอของรัฐ
หมอที่เข้ามาสู่หมู่บ้านมู่ไจ้ และนำพาโรคระบาดมาด้วยก็คือหมอจากกรมฮุ่ยหมิน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตามคำสั่งขององค์จักรพรรดิ พวกเขาได้ตัดขาดการติดต่อกับเมืองอื่น ๆ เมื่อผู้เดือดร้อนส่งข้อความไปขอให้รัฐช่วยส่งหมอเข้ามา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหมอคนไหนมาที่นี่เลย
ด้วยเหตุนี้ โรคระบาดจึงแพร่ไปทั่วทั้งหมู่บ้านมู่ไจ้ ผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่แรกเสียชีวิตไปแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บสาหัส ส่วนใหญ่ล้วนเสียชีวิตจากโรคระบาด
เจ้าหน้าที่และทหารที่เข้าไปช่วยเหลือได้แยกผู้ป่วยและผู้มีสุขภาพดีออกเป็นพื้นฝั่งที่ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือ
คนที่มีสุขภาพดีจะอาศัยอยู่ในฝั่งตะวันออก
ส่วนฝั่งทิศใต้จะเป็นสถานที่สำหรับผู้ต้องสงสัย จะถูกกักกันไว้เพื่อสังเกตอาการก่อน
ในพื้นที่ตะวันตก ผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าป่วยจริงสามารถเข้าไปในเขตตะวันตกได้โดยตรง และจะไม่สามารถออกมาอีกได้ หากพวกเขากล้าออกมาจะถูกกำจัดโดยเจ้าหน้าที่และทหาร
พื้นที่ทางเหนือเป็นพื้นที่เปิดโล่งที่มีไว้สำหรับเผาศพ เจ้าหน้าที่และทหารไม่มีความรู้เรื่องโรคระบาดมากนัก แต่รู้ว่าหลังจากที่ผู้ป่วยจากโรคระบาดเสียชีวิต จะต้องจัดการกับศพด้วยวิธีการเผาเท่านั้น
ดังนั้นประชากรในหมู่บ้านมู่ไจ้จากแปดพันคนในตอนแรก คงเหลือเพียงประมาณหกพันคน เมื่อเกาเฟิ่งเทียนนำมู่หรงเจี๋ยและคนอื่น ๆ เข้ามา
ใช่แล้ว หลังจากที่มู่หรงเจี๋ยและจื่ออันจากไป พวกเขาก็ไปหาเกาเฟิ่งเทียน และบอกเกาเฟิ่งเทียนว่าพวกเขาต้องการเดินทางลับ ๆ อย่างเป็นส่วนตัว เพื่อไปยังพื้นที่โรคระบาด ทำการรักษาผู้ป่วย และศึกษาสาเหตุของโรค
นอกจากนี้ องค์หญิงอันยังติดตามพวกเขาไปด้วย กล่าวคือในเช้าวันที่ห้าของเดือนหนึ่ง องค์หญิงอันและเกาเฟิ่งเทียนได้พามู่หรงเจี๋ยและคนอื่น ๆ เข้าไปถึงในหมู่บ้านแล้ว
ในขณะที่กรมราชทัณฑ์ออกประกาศว่าดาบศักดิ์สิทธิ์สูญหายในคืนวันที่ห้าเดือนหนึ่ง
เนื่องจากหมู่บ้านมู่ไจ้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทำให้ถูกปิดกั้นข่าวสาร ไม่มีใครในหมู่บ้านมู่ไจ้รู้ว่ากรมราชทัณฑ์ออกประกาศกล่าวหาว่ามู่หรงเจี๋ยเป็นผู้ขโมยดาบศักดิ์สิทธิ์
จนถึงวันนี้ เฉากั๋วจิ้วได้นำกองทัพจักรวรรดิเดินทางมาถึงหมู่บ้านมู่ไจ้
เพราะอะไรเฉากั๋วจิ้วถึงต้องมาที่หมู่บ้านมู่ไจ้?
เนื่องจากหมู่บ้านมู่ไจ้ถือเป็นเครือญาติของตระกูลฉินด้วยการแต่งงาน เขาจึงต้องนำเรื่องนี้ไปบอกกล่าวให้กับคนตระกูลฉินทราบ ตอนนี้ฉินโจวกำลังนำกองทัพของตระกูลฉินออกไปทำสงคราม พฤติกรรมของมู่หรงเจี๋ยในการขโมยดาบศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นสิ่งที่น่าละอายและน่ารังเกียจ ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของกองทัพตระกูลฉิน ขวัญกำลังใจของเหล่าแม่ทัพจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก แล้วเขาจะได้รับการยกย่องว่าได้ทำความดีรับใช้องค์จักรพรรดิ
เฉากั๋วจิ้วเพิ่งรู้ตอนที่เขาเข้าไปในหมู่บ้านมู่ไจ้ ว่ามีผู้คนหลายร้อยคนในหมู่บ้านมู่ไจ้ติดเชื้อโรคระบาด และมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน
ทุกวันนี้ เป่ยโม่ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แม้แต่จักรพรรดิเองก็อาจไม่รู้ว่ามีโรคระบาดเกิดขึ้นที่ใดบ้าง
เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านโม่แห่งหมู่บ้านมู่ไจ้เห็นเฉากั๋วจิ้วมาถึงที่นี่พร้อมกับทหาร เขาจึงคิดว่านี่เป็นการช่วยเหลือที่ถูกส่งมาจากทางการ รีบออกไปต้อนรับเขาทันที
เฉากั๋วจิ้วขมวดคิ้ว มองดูบรรดาผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันตก “เกิดอะไรขึ้น? คนเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวทั้งหมดเลยหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...