ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ นิยาย บท 1125

ระยะฟักตัวของกาฬโรคคือสองถึงแปดวัน หากจะลงจากภูเขาต้องกักตัวประมาณแปดวัน

แต่ในระหว่างแปดวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นข้างนอกบ้าง?

ไม่มีใครกล้าคาดเดา…

คืนนั้นใต้เท้าซู่มู่กลับมา หลังจากได้ยินว่าเขากลับมาแล้ว จื่ออันก็ไปหาเขาทันที

“พระชายา เกิดอะไรขึ้น?” ใต้เท้าซูมู่ซีดเซียวเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นจื่ออันเดินเข้ามา ก็ลุกขึ้นต้อนรับอย่างรวดเร็ว

“ใต้เท้าซู ท่านพอจะมีวิธีติดต่อกับองค์หญิงบ้างหรือไม่?” จื่ออันถาม

ใต้เท้าซูมู่พยักหน้า “มีขอรับ พรุ่งนี้ข้าสามารถลงจากภูเขาได้ แต่พระชายามีเรื่องสำคัญใดที่ต้องบอกองค์หญิงโดยตรงหรือ?”

“ยังลงจากภูเขาไม่ได้ ตอนนี้เราสรุปสาเหตุของโรคคร่าว ๆ ได้แล้ว มันคือกาฬโรค ถือเป็นโรคติดต่อชนิดร้ายแรง วันนี้เจ้าลงจากภูเขาแล้วได้ติดต่อกับใครบ้างหรือไม่?”

สายตาของใต้เท้าซูหลบเลี่ยงเล็กน้อย “ข้ากลับบ้าน”

จื่ออันขมวดคิ้ว “เหตุใดจู่ ๆ ถึงอยากกลับบ้านขึ้นมา?”

ใต้เท้าซูกล่าวว่า “วันนี้เมื่อองค์ชายเจิ้นกั๋วเสด็จมาเยือน เขาได้นำทหารยามซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของข้ามาด้วย เขาแจ้งให้ข้าทราบว่าบุตรชายของข้ามีไข้สูง ดังนั้นจึงต้องกลับไปตรวจดูเป็นการด่วน”

“เช่นนั้นก็หมายความว่าเจ้าได้สัมผัสใกล้ชิดกับลูกชายของเจ้าโดยตรงน่ะสิ?” จื่ออันเริ่มกังวล “ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องหาคนนำยาออกไปส่งให้กับครอบครัวของเจ้าโดยเร็ว เพื่อที่พวกเขาจะได้กินป้องกันไว้”

ใต้เท้าซูสะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง “กินยาหรือ? หากเป็นยาลดไข้นั้นไม่จำเป็นหรอก เมื่อข้ากลับไปถึงไข้ของเขาก็ลดลงแล้ว”

“เปล่า หากเราเคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เราก็อาจเป็นพาหะนำเชื้อไปติดคนอื่นได้เช่นกัน โรคนี้ถือเป็นเชื้อที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่าย ทั้งยังมีอันตรายถึงชีวิต เมื่อติดต่อผ่านการหายใจ ลูกชายของเจ้าที่บ้านป่วยเป็นไข้ ภูมิต้านทานในร่างกายต่ำพออยู่แล้ว ยิ่งมีเจ้าเป็นพาหะของเชื้อไปสัมผัสอีก เขาอาจจะติดเชื้อได้”

ใต้เท้าซูประหลาดใจ “รุนแรงถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”

“ใช่…” จื่ออันอธิบายให้เขาฟังว่ากาฬโรคนี้ร้ายแรงเพียงใด รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตด้วย

ใต้เท้าซูฟังสิ่งที่นางพูดแล้วมองหน้านางเงียบ ๆ

วันนี้คนขององค์ชายเจิ้นกั๋วสั่งให้เขาลงจากภูเขาเพื่อพบองค์ชายด้วยตนเอง องค์ชายกล่าวว่ามู่หรงเจี๋ยและพระชายาของเขามีเจตนาร้ายแอบแฝง นั่นคือต้องการให้เป่ยโม่ล่มสลาย ยังสร้างข่าวลือเกี่ยวกับโรคจนเกินจริง เพื่อให้เกิดความแตกตื่นในหมู่ชาวเป่ยโม่

นางคิดค้นตำรับยาก็จริง แต่ตำรับยานี้อาจไม่สามารถใช้รักษาโรคระบาดได้ ทั้งยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้คนในเป่ยโม่อีกด้วย

องค์ชายเจิ้นกั๋วขอให้เขาจับตาดูเซี่ยจื่ออันไว้ หากนางได้ตัวยามา ให้เขาขโมยมาศึกษาดูเสียก่อน แล้วจึงมอบให้เขา จากนั้นเขาจะส่งต่อไปให้หมอหลวงตรวจสอบดูว่าเป็นอันตรายต่อคนหรือไม่

ในเวลานั้น เขาไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่องค์ชายเจิ้นกั๋วกล่าวมากนัก เพราะพระชายาผู้สำเร็จราชการที่เขารู้จักไม่ใช่คนแบบนั้น

แต่ตอนนี้นางกลับบอกว่าโรคมีความร้ายแรงมาก ผู้คนในหลาย ๆ ประเทศต่างเสียชีวิตด้วยโรคนี้

นี่ออกจะไร้สาระเกินไปหน่อย

ถ้าข่าวนี้หลุดออกไปจะเกิดความตื่นตระหนกในหมู่ฝูงชนขนาดไหน?

ซูมู่ครุ่นคิดเมื่อได้ยินจื่ออันพูดต่อ “เจ้าต้องแจ้งให้จักรพรรดิทราบทันทีเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ส่วนเจ้าจะประกาศต่อสาธารณะหรือไม่ ลองตัดสินใจด้วยตัวเองดู อย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ปิดบังภัยพิบัติจากประชาชน บอกกล่าวให้พวกเขาทราบถึงความร้ายแรงเพื่อเตรียมพร้อมไว้จะดีกว่า”

ในยุคปัจจุบัน แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะไม่โปร่งใสอย่างสมบูรณ์ แต่ประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ ทุกคนควรรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาดร้ายแรงเช่นนี้

ซูมู่นึกถึงสิ่งที่องค์ชายเจิ้นกั๋วกล่าว หากมู่หรงเจี๋ยและพระชายาของเขาทำสำเร็จ ต้าโจวอาจจะไม่ยุติสงคราม และจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่ผู้คนติดโรคระบาดในเป่ยโม่บุกโจมตี

ซูมู่เป็นผู้มีนิสัยรักความสงบ ก่อนหน้านี้เขามักจะรู้สึกว่าองค์ชายเจิ้นกั๋วมีความทะเยอทะยานเกินไป แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาพูดอีกครั้ง เขาก็อดรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลังขึ้นมาไม่ได้

หากสิ่งที่เขากล่าวมาเป็นความจริง เป่ยโม่อาจถูกทำลายโดยต้าโจวจริง ๆ

“ใต้เท้าซู เจ้าได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่?” จื่ออันร้องเรียกเมื่อเห็นว่าเขาอยู่ในความงุนงง

ซูมู่เงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่จื่ออัน "อย่ากังวลไปเลย พระชายา ข้าได้ยินแล้ว และจะหาวิธีแจ้งให้องค์หญิงอันทราบ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์