“ไม่มียาพิษ?” องค์ชายเจิ้นกั๋วถาม
“ไม่มียาพิษพ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายเจิ้นกั๋วรู้สึกประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เขาสงสัยว่ารายชื่อของยาพิษอยู่ในใบสั่งยาหรือไม่
ทว่าหากไม่มียาพิษ และไม่สามารถรักษากาฬโรคได้ แล้วเหตุใดเซี่ยจื่ออันถึงยอมให้ใบสั่งยาถูกเผยแพร่ออกไปเล่า?
นี่ไม่ใช่การลงมือเสียเปล่าใช่หรือไม่?
หลังจากส่งหมอกลับไปแล้ว เขาก็ซ่อนใบสั่งยาไว้ในแขนเสื้อ ก่อนเข้าไปในพระราชวัง
หลังจากสอบถามหมอหลวงแล้ว หมอหลวงก็ให้คำตอบเหมือนกับหมอคนก่อนหน้านี้ และยังกล่าวเสริมว่า “แท้จริงแล้วผู้ที่เขียนใบสั่งยาแผ่นนี้ฉลาดยิ่งนัก โดยทั่วไปรายชื่อยาเหล่านี้สามารถรักษาไข้จับสั่นและโรคอากาศเป็นพิษได้ดีทีเดียว”
“เช่นนั้นรายชื่อยาเหล่านี้ไม่สามารถรักษาโรคระบาดได้หรือไม่?”
“จะพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูกทั้งหมด ยาเหล่านี้ยังมีประสิทธิภาพอยู่บ้าง หากผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับเชื้อโรคมาไม่นานดื่มยานี้เข้าไป ก็สามารถบรรเทาอาการได้บ้าง ถึงกระนั้นก็ไม่อาจรับรองได้ว่าหากดื่มต่อไปจะดีขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ใบสั่งยาฉบับนี้คงช่วยผู้ป่วยวิกฤตไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายเจิ้นกั๋วไม่เข้าใจว่าเซี่ยจื่ออันต้องการทำอะไร
อย่างไรก็ตาม เมื่อหมอหลวงกล่าวบางสิ่งออกมา เขาก็เข้าใจได้ทันที
หมอหลวงกล่าวว่า “ยาในใบสั่งยาค่อนข้างมีราคาแพง หากเป็นครอบครัวสามัญชนคงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อได้ ยิ่งไปกว่านั้น แชตี่และตังกุยที่อยู่ในใบสั่งยาหายากยิ่งนักในแคว้นของเรา ซึ่งสามารถสั่งซื้อได้จากต้าโจวเพียงเท่านั้น”
ดวงตาขององค์ชายเจิ้นกั๋วเปล่งประกาย... ใช่แล้ว นี่คือจุดประสงค์ของนาง
หากใบสั่งยานี้ถูกส่งต่อ ราชสำนักจะต้องปรับราคาของยาและสั่งซื้อยาจำนวนมากจากต้าโจว ซึ่งต้องใช้เงินไม่น้อย ทว่าในตอนนี้เงินในท้องพระคลังกลับว่างเปล่า หากจะต้องใช้เงินในการบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ ซื้อเสบียงสำหรับทหาร และจัดซื้อยาคงจะไม่เพียงพอเป็นแน่
ทว่าหากใบสั่งยาฉบับนี้รั่วไหลออกไป ประชาชนจะต้องคิดว่ามันคือสิ่งที่ช่วยชีวิตพวกเขาอย่างแน่นอน หากไม่สามารถจัดซื้อยาเหล่านี้มาได้ ประชาชนจะต้องก่อจลาจลอย่างแน่นอน
เมื่อคิดเช่นนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียง ช่างเป็นหญิงเลวทรามเสียจริง
อ๋องฉีผู้นั้นเชื่อจริง ๆ หรือว่าคนเหล่านี้เดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเป่ยโม่ด้วยใจจริง
เมื่อคิดว่าฉินโจวกำลังจะกลับมาในเร็ววันนี้ เขาจึงต้องการหารือกับตระกูลฉิน และแจ้งให้แม่ทัพเฒ่าฉินรับรู้ถึงแผนการชั่วร้ายของเซี่ยจื่ออัน
เมื่อออกจากพระราชวัง เขาก็ตรงดิ่งไปยังจวนตระกูลฉินทันที
ผู้นำตระกูลฉินคือปู่ของฉินโจว
บิดาของฉินโจวเสียชีวิตใจสนามรบ ดังนั้นเขาจึงได้รับขนานนามว่าแม่ทัพผู้ดุดัน
ผู้นำตระกูลฉินยังเป็นแม่ทัพผู้เลื่องชื่อ และสร้างความดีงามทางการทหารให้กับเป่ยโม่อีกด้วย
ความสำเร็จของตระกูลฉินถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และสมาชิกตระกูลเกือบทุกรุ่นก็มียศเป็นแม่ทัพผู้มีชื่อเสียง
ดังนั้นอำนาจของตระกูลฉินในเป่ยโม่จึงไม่อาจสั่นคลอนได้
ตอนนี้ฉินโจวมีกองกำลังทหารอยู่ในบังคับบัญชาจำนวนมาก แม้ว่านางจะไม่ใช่จักรพรรดิ ทว่าอำนาจของนางในเป่ยโม่เทียบเท่าองค์จักรพรรดิเลยทีเดียว
เคราะห์ดีที่ตระกูลฉินมีความภักดีมาหลายชั่วอายุคน พวกเขาไม่เคยฝ่าฝืนพระราชโองการ และไม่ทะนงตน ดังนั้นองค์จักรพรรดิจึงไว้วางใจพวกเขา
เมื่อผู้เฒ่าฉินเห็นว่าองค์ชายเจิ้นกั๋วเดินทางมาเยี่ยมเยือนด้วยตนเอง เขาก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายจะต้องมีเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน
ในอดีตผู้เฒ่าฉินเคยเป็นผู้นำพรรคจู่จ้าน แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น เขาก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป
หลายปีที่ผ่านมาสุขภาพของผู้เฒ่าฉินไม่ค่อยดี ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกตระกูลทั้งสามยังติดอยู่ในพื้นที่โรคระบาด เขาจึงคิดมากทั้งวันทั้งคืนจนล้มป่วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังป่วย แต่เขาก็ยังออกมาต้อนรับองค์ชายเจิ้นกั๋ว
“แม่ทัพเฒ่า อาการป่วยของท่านดีขึ้นหรือยัง?” เมื่อองค์เจิ้นกั๋วเห็นเขาก็กล่าวทักทายโดยไม่รีรอ
ผู้เฒ่าฉินประสานหมัดพลางกล่าว “กราบทูลองค์ชาย ข้ามีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง จึงไม่อาจดีขึ้นในระยะเวลาอันสั้นได้ ฝ่าบาทเชิญนั่งก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
เขาเรียกบ่าวรับใช้เข้ามารินชา หลังจากนั่งลงแล้ว เขาก็ถามว่า “องค์ชายมีเรื่องสำคัญหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
องค์ชายเจิ้นกั๋วล้วงใบสั่งยาออกมาแล้วส่งให้ผู้เฒ่าฉิน จากนั้นเล่าถึงแผนการอัน ‘ชั่วร้าย’ ของจื่ออัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...