ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ นิยาย บท 1132

แค่เชือกเส้นเดียวจะบินเองได้อย่างไร? หรือว่ามันคือเชือกผีสิง?

จื่ออันแสดงทักษะนี้โดยตั้งใจ อยู่ที่นี่นางไม่มีทั้งผู้คุ้มครองและเส้นสาย ดังนั้นจึงทำได้เพียงพึ่งพาเชือกบ่วงบาศในการสร้างความลึกลับน่าเกรงขาม เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้สึกว่านางไม่ใช่ผู้ที่จะต่อกรได้ง่าย ๆ

ผู้คนมักจะหวาดกลัวในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้

รวมถึงมีทัศนคติที่ยำเกรงเนื่องมาจากความกลัว

“พระชายา นี่มัน... สมบัติศักดิ์สิทธิ์อะไรกัน?” หัวหน้าหมู่บ้านผู้รอบรู้อดไม่ได้ที่จะถามจื่ออันด้วยความหวาดกลัว

จื่ออันกล่าวว่า “ใต้เท้า หมอเหวินอี้ได้มอบสมบัติชิ้นนี้ให้กับไท่หวงไท่โฮ่วแห่งต้าโจว จากนั้นไท่หวงไท่โฮ่วก็ส่งมอบต่อให้ข้า แม้ว่าหน้าตาของมันออกจะดูน่าเกลียด ทว่ามันก็ทำมาจากหญ้าเทพเจ้าเทียนซาน มีความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งชนิดที่ไม่สามารถทำลายได้ ทุกคนคงเคยได้ยินคุณสมบัติเกี่ยวกับหญ้าเทพเจ้าเทียนซานมาบ้าง มันเจริญเติบโตในธารน้ำแข็งหิมะเหนือเทือกเขาเทียนซาน สั่งสมรัศมีแห่งฟ้าดิน ดูดซับแก่นแท้จากการอาบแสงจันทร์ หลังจากถักทอเป็นเชือกบ่วงบาศ แล้วยังถูกเก็บรักษาไว้ในวัดฮู่กั๋วเป็นเวลาถึงสามปี กระทั่งกลายเป็นสมบัติที่มีจิตวิญญาณ หลังจากได้ฟังพระวจนะของพระพุทธเจ้าทุกเมื่อเชื่อวัน”

หลิงลี่ซึ่งอยู่ที่นั่นได้ยินคำพูดเหล่านี้ นางก็หันหลังกลับแล้วกล่าวว่า “พระชายาช่างขี้โม้เสียจริง”

หลิวหลิ่วระเบิดเสียงหัวเราะ "แต่สิ่งที่นางพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ใครกันจะสงสัย ในเมื่อทักษะนี้มีความลึกซึ้งมาก”

ชาวบ้านและทหารต่างตกตะลึง พวกเขาจะไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับหญ้าเทพเจ้าเทียนซานได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่ากันว่ามันดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณจากฟ้าดิน และวางไว้ในจุดที่รับอานิสงส์จากพระพุทธวจนะเป็นเวลาสามปี ดังนั้นมันอาจเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น นางยังเป็นลูกศิษย์ของหมอเหวินอี้อีกงั้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้นก็นับว่าน่าทึ่ง

เหวินอี้เป็นหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงร่ำลือไปทั่วเจ็ดแว่นแคว้น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในทุกถิ่นฐาน แม้ว่าหลายคนจะไม่เคยเห็นตัวจริงของนาง แต่พวกเขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับความสามารถของนางไม่มากก็น้อย

จื่ออันหยิบยกชื่อของเหวินอี้มาเป็นผู้ช่วยให้รอดของตัวเองอีกครั้ง นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเช่นนั้น

สีหน้าของซูมู่เริ่มลังเล เขามองไปที่จื่ออันอย่างไม่เชื่อ “ท่านเป็นศิษย์ของหมอเหวินอี้จริงหรือ? ท่านยังดูเยาว์วัยนัก แต่หมอเหวินอี้…”

จื่ออันรีบขัดจังหวะเขา “หากเจ้ายังสงสัยเคลือบแคลงข้าอีก ข้าก็ไม่มีอะไรจะอธิบาย จงทำตามที่ข้าบอก ลงจากภูเขาแล้วไปดูสถานการณ์ด้วยตัวเองกับตา"

โรคระบาดแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความเฉยเมยของจักรพรรดิต่อโรคระบาด ทำให้มันแพร่กระจายออกไปเร็วกว่าที่นางคาดคิดไว้ แต่นางไม่รู้ว่าข้อมูลที่ได้รับรายงานโดยกรมฮุ่ยหมิน และกรมการปกครองท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ดังนั้นนางจึงอยากให้ซูมู่ไปดู ประการแรก นางต้องการทำความเข้าใจสถานการณ์ และประการที่สอง เพื่อที่ซูมู่จะได้ตระหนักถึงความเป็นจริง

องค์ชายเจิ้นกั๋วต้องล้างสมองเขาเป็นแน่ มิฉะนั้น เขาคงไม่สงสัยนางเช่นนี้

ซูมู่มองไปที่เชือกบ่วงบาศ หากการโจมตีเมื่อครู่ทำร้ายร่างกายเขาโดยตรง ผลลัพธ์คงรุนแรงอย่างยิ่ง

และหากนางมีเจตนาแอบแฝงจริง นางน่าจะสังหารเขาในหมู่บ้านไปแล้ว และยังคงปั้นหน้าหลอกลวงทุกคนต่อไป

“ข้าเชื่อมั่นในตัวพระชายา!” หลี่ฟู่เอ่ยขึ้นก่อน

ทันทีที่หลี่ฟู่กล่าว ทุกคนต่างก็แสดงความเห็นว่า “ข้าก็เชื่อในตัวพระยาชาเช่นเดียวกัน”

“ข้าก็เชื่อในตัวพระชายาเช่นเดียวกัน!”

“พระชายาได้ทุ่มเทกำลังในการรักษาชาวบ้านตั้งแต่วันแรกที่นางมาถึงหมู่บ้านมู่ไจ้ ช่วงนี้นางแทบกินไม่อิ่มนอนไม่หลับ หรือนอนหลับ ข้าเชื่อมั่นในตัวพระชายา”

คำพูดของทุกคนจริงใจ เมื่อจื่ออันได้ยินคำพูดเหล่านี้ ในที่สุดนางก็รู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยนางก็ได้รู้ว่าการทำงานหนักของตนเองไม่สูญเปล่า

หมอจากกรมฮุ่ยหมินไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเช่นกัน เพราะสิ่งที่พวกเขาได้เห็นทำให้พวกเขาตกใจมาก

ในที่สุด ซูมู่ก็เลือกลงจากภูเขา เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่จื่ออันพูดเป็นความจริง เขาไม่ลืมพาคนอีกสามคนลงจากภูเขาไปพร้อมกันด้วย เพื่อช่วยเป็นพยาน

เขาคาดหวังเสมอว่าสิ่งที่จื่ออันพูดนั้นเป็นเท็จ โรคระบาดไม่ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงนัก

เขาขี่ม้าเดินทางไปยังเมืองชี่เฉิง ลัวเชี่ยน และอันเฉิงภายในวันเดียว

ปรากฏว่าสิ่งที่เขาเห็น คือซากศพที่เกลื่อนกลาดไปทุกหนทุกแห่ง ศพเหล่านี้ถูกทิ้งไว้ริมถนนโดยไม่ได้รับการจัดการ มีแมลงวันและหนูมากัดกินยั้วเยี้ยไปหมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์