หลังจากรอมานานเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็เห็นองค์หญิงอันกลับมาพร้อมล่อ ซึ่งแบกสัมภาระมากมายที่ดูเหมือนยารักษาโรคไว้บนหลัง
เมื่อซูมู่เห็นนาง ก็รีบผุดลุกขึ้นทำความเคารพทันที “ถวายบังคมองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”
องค์หญิงอันกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด แต่เมื่อได้ยินเสียงของเขา นางก็สะดุ้งโหยงแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “ซูมู่ ท่านไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านมู่ไจ้หรอกหรือ?”
“ขออนุญาตองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ!” ซูมู่เกือบหลั่งน้ำตา ภาพที่เขาเห็นระหว่างทางทำให้วิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง เนื่องจากเขาช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ดังนั้นจึงหวังว่าองค์หญิงจะสามารถช่วยประชาชนได้
“เข้าไปพูดคุยกันข้างในก่อนเถิด” องค์หญิงกล่าว
“ไม่พ่ะย่ะค่ะ” ซูมู่ก้าวถอยหลังสองก้าว เมื่อนึกถึงคำพูดของจื่ออัน ตอนนี้เขาก็เชื่อสุดใจแล้ว แม้จะรู้ว่าตนไม่มีทางติดเชื้อโรค แต่ก็ควรอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยจะดีกว่า เขารีบล้วงหน้ากากที่จื่ออันประดิษฐ์ออกมาจากแขนเสื้อแล้วสวมมันอย่างรวดเร็ว “องค์หญิง มาคุยกันที่นี่เถิด พระชายาขอให้องค์หญิงนำใบสั่งยาฉบับนี้ไปถวายให้องค์จักรพรรดิ และขอให้ฝ่าบาทประกาศรายชื่อยาเหล่านี้ให้หมอจากกรมฮุ่ยหมินและประชาชน ไม่ว่าพวกเขาจะป่วยหรือไม่ก็ตามพ่ะย่ะค่ะ”
“เหตุใดเจ้าถึงซ่อนตัวอยู่ไกลเช่นนี้? ใบสั่งยาอยู่ที่ใด?” องค์หญิงอันขมวดคิ้ว
“เซี่ยกวนมอบมันให้กับองค์ชายเจิ้นกั๋วแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่เซี่ยกวนสามารถจำรายชื่อยาในใบสั่งยาได้”
สีหน้าขององค์หญิงอันเปลี่ยน “ท่านมอบอะไรให้ขา? พระชายาบอกให้ท่านทำเช่นนั้นรึ?”
“ไม่ ไม่พ่ะย่ะค่ะ เซี่ยกวนมีความผิด เดิมทีพระชายาบอกให้ข้ามอบมันให้องค์หญิง แต่เซี่ยกวน... เซี่ยกวนเกิดสงสัยในเจตนาพระชายา ดังนั้นจึงมอบใบสั่งยาให้กับองค์ชายเจิ้นกั๋วแทนพ่ะย่ะค่ะ” ซู่มู่กล่าวด้วยความละอายใจ
“เหตุใดท่านถึงสับสนได้เพียงนี้? รีบเขียนใบสั่งยาเร็ว ๆ เถิด”
“องค์หญิงได้โปรดสั่งให้ใครก็ได้นำหมึกและกระดาษมาให้พระองค์เถิด เซี่ยกวนไม่สามารถเข้าไปที่นั่นได้ เพราะพระชายากำชับว่าทุกคนในหมู่บ้านมู่ไจ้ไม่ควรติดต่อกับบุคคลภายนอก เพราะป้องกันการติดเชื้อโรค ซึ่งโรคระบาดชนิดนี้เรียกว่ากาฬโรค ที่สามารถแพร่กระจายเป็นวงกว้างได้ แม้แต่ไปต่างเมืองก็ยังต้องถูกกักตัวทันทีพ่ะย่ะค่ะ”
“หนักหนาเพียงนั้นเชียวรึ?” องค์หญิงอันตกตะลึงอย่างมาก
“พ่ะย่ะค่ะ พระชายากล่าวเช่นนี้จริง ๆ หลังจากที่เซี่ยกวนลงจากภูเขา ก็ได้รับรู้ว่าแม้แต่เมืองชิงหย่วนก็ยังเต็มไปด้วยโรคระบาด” น้ำเสียงของซูมู่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“เมืองชิงหย่วนไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่เหตุใดถึงมีโรคระบาดเล่า? เจ้าจำผิดหรือไม่?”
ซูมู่ส่ายหน้า “ไม่พ่ะย่ะค่ะ เซี่ยกวนและคนอื่น ๆ เป็นพยานได้ ท่านโปรดเตรียมหมึกและพู่กันเพื่อจดรายชื่อยาจากเซี่ยกวนเถิด”
องค์หญิงอันรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ร้ายแรงอย่างยิ่ง นางจึงรีบนำล่อกลับไปยังที่พัก หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง นางและบ่าวรับใช้ก็เดินทางออกไปอีกครั้งพร้อมกับสิ่งล้ำค่าทั้งสี่ในห้องตำรา
ซูมู่สั่งให้บ่าวรับใช้เป็นคนจดรายชื่อยา เพราะเขาไม่กล้าแตะต้องกระดาษ
หลังจากเขียนเสร็จ ซูมู่ก็กล่าวว่า “องค์หญิงได้โปรดนำใบสั่งยาไปที่พระราชวัง เพื่อเข้าพบองค์จักรพรรดิให้เร็วที่สุด และรายงานให้พระองค์ทรงรู้เกี่ยวกับความร้ายแรงของโรคระบาด ยิ่งไปกว่านั้น พระชายายังกำชับว่าจะต้องเผยแพร่ใบสั่งยาให้ทุกคนได้ทราบให้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
องค์หญิงอันวางใบสั่งยาแล้วเอ่ย “ข้าจะเข้าไปในพระราชวังให้เร็วที่สุด และรายงานฝ่าบาทเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านบอกข้า”
ซูมู่กล่าว “องค์ชายเจิ้นกั๋วถามข้าเกี่ยวกับพระชายาตอนอยู่ที่หมู่บ้านมู่ไจ้ และเซี่ยกวนก็เล่าให้เขาฟังอย่างละเอียดทีละเรื่อง รวมไปถึงความลับที่คนอื่นไม่รู้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ต่อจากนี้หากองค์ชายเจิ้นกั๋วถามท่าน ก็อย่าบอกเขาทุกเรื่องล่ะ ท่านต้องเรียนรู้ที่จะหลบหลีกเสียบ้าง” คำสั่งสอนขององค์หญิงอันเปรียบเสมือนการปกป้องเขา เนื่องจากเขาไม่มีวาทศิลป์จึงเผยความลับไปมากมาย
ซูมู่ตอบด้วยความละอายใจ “พ่ะย่ะค่ะ เซี่ยกวนจะจำเรื่องนี้ให้ขึ้นใจ”
องค์หญิงอันสั่งให้คนอื่น ๆ ขนของลงจากหลังล่อ ก่อนที่จะขี่ล่อตัวนั้นแล้วจากไป
ซูมู่เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านมู่ไจ้เพื่อสารภาพความผิดกับจื่ออัน
จื่ออันกล่าว “ข้ามาจากแคว้นต้าโจว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ท่านจะสงสัยในเจตนาของข้า ข้าไม่โทษท่านหรอก แต่จงบอกสิ่งที่ท่านเห็นหลังลงจากภูเขาให้ข้ารู้”
ซูมู่สะเทือนใจอย่างมาก เมื่อนึกถึงซากศพเน่าเปื่อยและผู้ป่วยที่เข้าแถวยาวเหยียด ฉับพลันเขาก็รู้สึกคลื่นไส้ ทว่าระงับอาการได้ก่อนตอบว่า “ในวันนั้นเซี่ยกวนขี่ม้าเดินทางจากเมืองชี่เฉิง ลัวเซี่ยนไปยังเมืองชิงหย่วน และพบว่าสถานการณ์โรคระบาดที่นั่นรุนแรงอย่างยิ่ง ถึงกระนั้นเจ้าหน้าที่ระดับล่างก็ยังไม่รู้ว่ายอดผู้เสียชีวิตที่เหล่าขุนนางรายงานต่อองค์จักรพรรดิ ว่าเป็นยอดจริงหรือไม่ และแม้ราชสำนักจะประกาศ แต่ยอดก็ยังน้อยกว่าที่เหล่าเจ้าหน้าที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ นับประสาอะไรกับซากศพที่กองพะเนินราวกับภูเขา ซึ่งเป็นภาพที่... ไม่น่ามองเอาเสียเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...