หลังจากตรวจชีพจรแล้ว จื่ออันก็กล่าวว่า “รอสักครู่ ข้าขอกลับไปเอาของบางอย่างก่อน”
นางกลับไปหยิบหูฟังของแพทย์ และอุปกรณ์วัดอุณหภูมิ
ดูเหมือนว่าเขาจะมีไข้ต่ำ แต่การสัมผัสอาจไม่แม่นยำนัก นางจึงกลับเอาอุปกรณ์วัดอุณหภูมิมาตรวจดู
“พระชายา นี่คืออะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ซูมู่เห็นนางหยิบบางอย่างออกมา และเขาก็ไม่เขินอายที่จะสอบถาม
“หนีบสิ่งนี้ไว้ที่รักแร้ของท่าน หากข้าบอกให้เอาออก ท่านก็ต้องเอาออก” จื่ออันอธิบาย
“พ่ะย่ะค่ะ!” ซูมู่ทำตามอย่างเขินอาย เขาหนีบเครื่องวัดอุณหภูมิไว้ใต้วงแขน
หลังจากหันกลับมา จื่ออันก็ใช้หูฟังเพื่อฟังหลอดลมและปอดของซูมู่ ขณะที่เขาไอเล็กน้อย
เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เครื่องมือสมัยใหม่ตรวจอาการของเขา ดังนั้นจึงทำได้เพียงสังเกตจากอาการ
ไม่มีเสียงผิดปกติในปอด แต่มีเสียงที่หลอดลมซึ่งแสดงถึงอาการอักเสบ
หลังจากเอาอุปกรณ์วัดอุณหภูมิออกมา ปรากฏว่าอุณหภูมิร่างกายของเขาสูงสามสิบเจ็ดองศาเซลเซียสซึ่งแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีไข้ต่ำ
ดวงตาของเขาแดงเล็กน้อย บ่งบอกว่ากำลังรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน และอาการเหล่านี้คืออาการเริ่มแรกของกาฬโรค
“ท่านรู้สึกไม่สบายและอยากอาเจียนหรือไม่?” จื่ออันถาม
“พ่ะย่ะค่ะ ขณะเดินทางกลับมาที่นี่ข้าเห็นซากศพมากมาย ซึ่งมีสภาพเน่าเปื่อย...” ซูมู่ยกมือขึ้นจับหน้าอกพร้อมหยุดพูด เขารู้สึกคลื่นไว้จนแทบจะอาเจียนออกมา
จื่ออันถอนหายใจเล็กน้อย ตอนนี้เป็นเวลาที่ชาวบ้านต้องการเขามากที่สุด หากซูมู่ติดเชื้อ ก็นับว่าเกิดปัญหาใหญ่แล้ว
ซูมู่พยายามระงับอาการคลื่นไส้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของจื่ออัน เขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย “พระชายา เซี่ยกวนติดเชื้อหรือไม่?”
จื่ออันตอบ “ข้ายังไม่อาจยืนยันได้ แต่ท่านต้องกักตัวอยู่แต่ในห้อง และอย่าออกไปไหนเด็ดขาด”
สำหรับการกักตัว เขาจะไม่สามารถไปยังเขตตะวันตกได้ ซึ่งเขตนี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน และไม่สามารถกักตัวไว้ที่เขตใต้ แม้ว่าทุกคนที่อยู่เขตใต้จะแสดงอาการ แต่นางก็ยังหวังว่าภูมิต้านทานของซูมู่จะแข็งแกร่งพอ และภาวนาให้เขาเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...