ฉินโจวลุกยืนขึ้นพลางประสานหมัด “เพคะ หม่อมฉันทูลลา!”
หลังจากฉินโจวออกไปแล้ว องค์จักรพรรดิก็กล่าวกับฮองเฮาเฉาว่า “ไปคุยกับนางสักสองสามคำสิ”
ฮองเฮาเฉาลุกยืนขึ้นพลางกล่าว “เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัว”
ขณะที่ฉินโจวกำลังเดินอยู่นั้น นางก็ได้ยินเสียงเรียกของนางกำนัลของฮองเฮา “ท่านแม่ทัพใหญ่ฉิน ฮองเฮาต้องการพบท่านเจ้าค่ะ”
ฉินโจวไม่ประหลาดใจเลย เพราะนางรู้จักฮองเฮาเฉามานานจนสามารถพูดคุยเป็นการส่วนตัวได้ เช่นนั้นนางจึงตอบว่า “โปรดนำทางข้าด้วย”
ฮองเฮาเฉารอนางอยู่ที่สวนหลวง พร้อมจัดเตรียมสุราและอาหารเอาไว้แล้ว
ฮองเฮาเฉาแต่งการด้วยชุดฉาวฝู่อันหรูหรา และมีกิริยาสง่างามอย่างยิ่ง เมื่อฉินโจวมาถึง อีกฝ่ายก็ส่งยิ้มให้นางเล็กน้อยพลางกล่าว “นั่งลงเถิด ข้าสั่งนางกำนัลให้เตรียมอาหารไว้เพื่อต้อนรับเจ้า”
“ฮองเฮาช่างมีเมตตาอย่างยิ่งเพคะ” ฉินโจวประสานหมัดก่อนนั่งลงด้วยท่าทีสบาย ๆ
ฮองเฮาเฉารินสุราด้วยตนเอง ขณะกล่าว “ท่านเดินทางมาเหนื่อยหรือไม่?”
“พวกเราเดินทางกลับบ้านแล้วจะเหนื่อยได้อย่างไรเพคะ? ทหารทุกคนล้วนกระตือรือร้นที่จะกลับบ้านกันทั้งนั้น” ฉินโจวยกจอกสุราขึ้นมา “หม่อมฉันขอถวายพระพรแด่ฮองเฮาเฉาเพคะ”
ฮองเฮาเอื้อมมือออกไปหยุดอีกฝ่ายเอาไว้ “ท่านอย่าเพิ่งดื่มสุราตอนนี้เลย ข้ามีจดหมายจะแสดงให้ท่านดู”
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของฮองเฮา ฉินโจวก็วางจอกสุราลงพลางถาม “จดหมายอะไรหรือเพคะ?”
“นี่คือจดหมายที่พระสนมอี๋แห่งต้าโจวส่งมาให้ข้า หลังจากอ่านเนื้อหาในนั้นแล้ว ท่านจะรู้ถึงแผนการของจักรพรรดิแห่งต้าโจว และจุดประสงค์ที่แท้จริงในการเดินทางมายังเป่ยโม่ของมู่หรงเจี๋ยและชายาของเขา”
ฮองเฮาเฉาล้วงซองผ้าออกมาจากแขนเสื้อ ก่อนส่งไปให้นาง “ท่านอ่านเองเถิด”
ฉินโจวรู้ว่ามีสายลับของเป่ยโม่แทรกซึมไปในพระราชวังต้าโจว และได้ ‘ร่วมมือ’ พระสนมอี๋ผู้ให้กำเนิดองค์ชายเจ็ดแห่งต้าโจว
นางรับมันแล้วดึงจดหมายออกจากซองผ้าแล้วกางออก เมื่ออ่านจบแล้ว สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปก่อนกล่าวด้วยความโกรธ “มู่หรงเจี๋ย กล้าดีอย่างไรถึงมาหลอกลวงข้า?”
ในจดหมายพระสนมอี๋เขียนว่าจุดประสงค์ในการเดินทางมาเป่ยโม่ในครั้งนี้ของมู่รงเจี๋ยและเซี่ยจื่ออัน คือการติดต่อกับพรรคจู่เหอ และต้องการบีบบังคับให้จักรพรรดิองค์ปัจจุบันสละบัลลังก์ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสนับสนุนให้อ๋องฉีก่อกบฏอีกด้วย ส่วนเซี่ยจื่ออันต้องการสร้างความตื่นตระหนก และปลุกระดมให้ประชาชนชาวเป่ยโม่ต่อต้านองค์จักรพรรดิและสนับสนุนอ๋องฉี
ฮองเฮาเฉาแค่นเสียง “มู่หรงเจี๋ยเป็นคนเช่นไร? แม้ว่าท่านจะไม่ได้ประกาศสงครามกับเขาอย่างเป็นทางการ แต่ท่านก็ยังต้องทนทุกข์กับผลกระทบจากปัญหาเล็ก ๆ ของเขาใช่หรือไม่? เขาช่างเล่นละครตบตาได้แนบเนียนจริง ๆ ใช่หรือไม่? เมื่อทั้งสองกองทัพเผชิญหน้ากัน พวกเขากลับยื่นข้อเสนอเพื่อสงบศึก ทั้งยังส่งคนมายังเป่ยโม่เพื่อช่วยเหลือพวกเรา หากไม่ใช่เพราะมีแผนการร้ายอยู่ในใจ มันก็คงจะขัดกับเจตนารมณ์ดั้งเดิมของพวกเขา นอกจากนี้ข้ายังสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับพระชายาของเขาด้วย นางเลวระยำยิ่งนัก เพียงเพราะพ่อของนางไม่ยอมจำนนต่อมู่หรงเจี๋ย และเข้าร่วมกับเหล่าองค์ชาย เซี่ยจื่ออันถึงกับฆ่าพ่อและย่าด้วยวิธีการอันโหดร้ายเช่นนี้ มหาเสนาบดีเซี่ยผู้น่าสงสาร เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือของลูกสาว”
ฮองเฮาเฉากล่าว ขณะเหลือบมองสีหน้าของฉินโจว
นางรู้ดีว่าฉินโจวเป็นคนรักครอบครัวและกตัญญูอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งที่นางเกลียดมากที่สุด คือคนอกตัญญูต่อบรรพบุรุษและทรยศครอบครัวตนเอง เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น นางก็รู้สึกเกลียดเซี่ยจื่ออันเข้ากระดูกดำ
แน่นอนว่าฉินโจวตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เช่นนั้นก็อย่าปล่อยให้เซี่ยจื่ออันตกอยู่ในเงื้อมมือของหม่อมฉันคงจะเป็นการดีที่สุด หากทำพลาด นางจะต้องเจอสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายแน่นอน”
ฮองเฮาเฉาถอนหายใจ “ตอนนี้ท่านเข้าใจแล้วหรือไม่ว่าเหตุใดองค์จักรพรรดิถึงต้องแบ่งทหารบางส่วนมารักษาการณ์อยู่ที่เมืองหลวง? เป็นเพราะป้องกันไม่ให้อ๋องฉีและมู่หรงเจี๋ยสมรู้ร่วมคิดในการก่อกบฏ เมื่อเมืองหลวงถูกยึดครอง มู่หรงเจี๋ยก็จะโจมตีกองกำลังแนวชายแดน เมื่อถึงเวลานั้น ท่านแม่ทัพใหญ่จินตนาการได้หรือไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...