ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ นิยาย บท 1148

ฉินโจวครุ่นคิดอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ความจริงแล้วนางไม่เชื่อว่าอ๋องฉีจะยกทัพมาที่เมืองหลวงเพื่อก่อกบฏ ทว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากอ๋องฉีถูกมู่หรงเจี๋ยยุยง?

อ๋องฉีแสดงความสวามิภักดิ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่าทำเพื่อสันติภาพ ความสงบสุขไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาโดยง่าย เนื่องจากเป่ยโม่มีกองกำลังทหารที่แข็งแกร่ง แม้พวกเขาจะไม่รุกรานแคว้นอื่น แต่คนเหล่านั้นก็ยังคงคิดว่าเป่ยโม่คือภัยคุกคาม

อ๋องฉีไม่เข้าใจในเรื่องนี้ เขามักป่าวประกาศว่าตนต้องการอยู่ร่วมกับแคว้นอื่นอย่างสันติ ทว่าแคว้นอื่นจะยอมอยู่ร่วมกับพวกเขาอย่างสันติหรือไม่? ไม่มีผู้ใดต้องการสงครามหรอก

“เซี่ยจื่ออันบอกว่าโรคระบาดชนิดนี้เรียกว่ากาฬโรค มันเป็นโรคติดต่อที่มาจากหนูและหมัด เมื่อแพร่กระจายออกไปแล้ว ประชาชนในเป่ยโม่จะติดโรคนี้ และไม่เพียงแค่เป่ยโม่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแคว้นใกล้เคียงที่จะติดเชื้อโรคด้วยเช่นกัน ท่านลองไตร่ตรองดูสิว่า หากคำพูดเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไปยังแคว้นเหล่านั้น พวกเขาจะคิดกับเราอย่างไร?”

ฉินโจวตอบ “ฮองเฮาทรงอย่ากังวลไปเลย ไม่มีใครเชื่อคำพูดของนางหรอกเพคะ”

สิ้นคำ ฉินโจวก็เหลือบมองฮองเฮาเฉา นางมีไหวพริบอย่างมาก จึงรู้ว่าอีกฝ่ายก็ฉลาดไม่แพ้กัน ฮองเฮาเฉาไม่จำเป็นต้องใส่ใจคำพูดไร้สาระเหล่านั้น แต่นางกลับจงใจกล่าวคำเหล่านั้นออกมาต่อหน้าฉินโจว ซึ่งทำให้รู้สึกแปลกประหลาดไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม นางและฮองเฮาเฉาคุ้นเคยกันมาเป็นเวลานาน แม้คำพูดของอีกฝ่ายจะทำให้นางประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังนัก

หลังจากสังเกตคำพูดและท่าทางของอีกฝ่าย ฮองเฮาเฉาก็รู้ทันทีว่าตนไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก นางจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ พวกเรามาดื่มกันดีกว่า”

“เพคะ หม่อมฉันขอถวายพระพรฮองเฮา!” ฉินโจวกำจัดข้อสงสัยแล้วยกจอกสุราขึ้น

ก่อนที่จะออกจากพระราชวัง ฮองเฮาเฉาก็เตือนนางว่า “ระหว่างที่ท่านนายพลอยู่ในเมืองหลวง ได้โปรดระมัดระวังด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าตอนนี้มู่หรงเจี๋ยอยู่ที่ใด หากเขาทำอย่างที่พระสนมอี๋รายงานจริง มู่หรงเจี๋ยก็อาจจะโจมตีนายพลได้ทุกเมื่อ และหากมีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน กองทัพเป่ยโม่จะต้องสูญเสียแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ต่างกับฝูงมังกรที่ไร้หัว ดังนั้นพวกเราจะต้องโดนสังหารกันหมดเป็นแน่”

ฉินโจวคลี่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยรังสีอาฆาต “เช่นนั้นหม่อมฉันก็อยากจะรู้จริง ๆ ว่ามู่หรงเจี๋ยจะก่อปัญหาอะไรในเป่ยโม่ของเราเพคะ”

สิ้นคำ นางก็ประสานหมัดทำความเคารพแล้วเดินกลับไป

ฮองเฮาเฉายืนอยู่บนบันไดหินของศาลา ขณะมองแผ่นหลังของฉินโจวพร้อมยกยิ้มมุมปาก

นางยกมือขึ้นช้า ๆ ก่อนทิ้งมันลงข้างตัว

ฉินโจวไปยังตำหนักของไท่โฮ่วเพื่อรับแม่ทัพเฒ่า จากนั้นกลับจวนไปพร้อมกัน

นางมีคำถามมากมายเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในใจ ดังนั้นนางไม่อาจอยู่เฉย ๆ ในจวนได้ จึงออกไปพร้อมกับทหารสองคน

นางต้องการเดินทางไปยังพื้นที่โรคระบาดเพื่อสังเกตการณ์

นางไม่เชื่อคำพูดของเซี่ยจื่ออัน ทว่าหลังจากเห็นสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วนางก็เข้าใจทันที

การเห็นศพมากมายกองพะเนินอยู่ระหว่างทางกลับ ทำให้นางรู้สึกราวกับถูกหนามทิ่มแทงใจตลอดเวลา

ฉินโจวเดินทางไปยังอันเฉิง นางผูกม้าไว้ที่หน้าซุ้มประตูหมู่บ้าน จากนั้นเดินเข้าไปพร้อมกับทหารสองคน

ศพมากมายยังกองอยู่ที่เดิม ซึ่งส่งกลิ่นเหม็นเน่าจนทำให้นางอยากอาเจียน

ฉินโจวปิดจมูกก่อนเดินต่อไป

หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว อันเฉิงก็อยู่ในสภาพทรุดโทรม ย้างเรือนพังทลาย ซากปรักหักพังเกลื่อนกลาด ไม้ผุพัง ขณะที่ยังไม่มีใครเก็บกวาดศพติดอยู่ใต้ซากกำแพงที่พังทลาย

อันเฉิงดูคล้ายกับเมืองที่ล่มสลายไปแล้ว หากไม่สังเกตให้ดี ก็จะมองไม่เห็นชาวบ้านเดินไปมา

ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เดินมาทางนาง พลางมองราวกับกำลังหาอะไรบางอย่าง

ฉินโจวตะโกนถามเจ้าหน้าที่ “ชาวบ้านในเมืองอยู่ที่ใดหรือ? พวกเขาพักอยู่ที่ใด?”

ชายผู้นั้นมองฉินโจวพลางตอบ “ท่านมาจากเมืองอื่นหรือ? กลับเสียเถิด นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ท่านควรมา”

“ข้ามาจากตงซานเพื่อเยี่ยมญาติ เกิดอะไรขึ้นที่นี่หรือ?” ฉินโจวถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์