มู่หรงเจี๋ยยิ้มอย่างกะทันหัน ยื่นมือออกไปเรียกให้เธอเข้ามา
จื่ออานนั่งลงข้าง ๆ เขา และมองไปที่เขา
“เจ้าให้ข้าจิบสักหน่อยเถิด ข้าจะบอกความลับแก่เจ้า เป็นความลับที่เกี่ยวกับเจ้า” มู่หรงเจี๋ยพูดอย่างจริงจัง
จื่ออานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ความลับของเธอ? เธอมีความลับอะไรที่เขารู้แต่ตัวเองไม่รู้? เป็นความลับของเจ้าของเดิมหรือไม่? แม้ว่าความทรงจำของเจ้าของเดิมจะยังคงอยู่ในใจของเขาเอง แต่ก็มีบางส่วนที่หายไป
ใจเธอเต้นแรง แต่ก็ยังส่ายหัว “อยากดื่มก็ไปเอาเอง ท่านอาการดีขึ้นแล้ว ก็ต้องไปหยิบเองได้”
แม้ว่าจะมีความสนใจอยู่มาก แต่เธอก็ยังมีจรรยาบรรณของความเป็นหมอ
สีหน้าของมู่หรงเจี๋ยหม่นลง “ช่างเป็นผู้หญิงที่ดื้อรั้นยิ่งนัก ไม่ชอบเลย”
จื่ออานวางมือลงบนเตียง แล้วพูดว่า “ผู้ป่วยที่ไม่เชื่อฟังจนเกินไป หมอก็ไม่ชอบเหมือนกัน”
มู่หรงเจี๋ยมองไปที่ใบหน้าของเธอ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาอีกครั้ง “หน้าของเจ้าเหมือนเจ้าแมวที่ทำตาขาวด้วยความหวาดกลัว ไปเอายามาหน่อย”
“ไม่เห็นจะมีเลย ที่นี่ไม่มีกระจก ไม่เป็นไรหรอก แผลที่ผิวหนังภายนอกประเดี๋ยวก็หายดี” จื่ออานไม่ได้ฆ่าเชื้อที่แผลด้วยซ้ำ
“เอามานี่” มู่หรงเจี๋ยสั่งด้วยใบหน้าที่กำชับ
จื่ออานส่ายหัว “ไม่ต้อง...”
“อย่าให้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!” มู่หรงเจี๋ยเริ่มเข้มงวด
จื่ออานจำเป็นต้องหยิบยาขี้ผึ้งออกจากแขนเสื้อ ขี้ผึ้งนี้ใช้สำหรับทาที่แผลบาดเจ็บโดยเฉพาะ จะมีผลในการฆ่าเชื้อและสมานแผล เซียวท่าซื้อมาจากเป่าฮวาหลิน
มู่หรงเจี๋ยหยิบขี้ผึ้งไปบิดฝาแล้วดมกลิ่น จากนั้นก็อยากจะพยายามลุกขึ้นมา แต่กลับพบว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย จึงพูดด้วยเสียงต่ำและเคร่งเครียดว่า “เข้ามาใกล้หน่อยสิ คนที่ใกล้จะตายเยี่ยงข้า ร่างกายลุกขึ้นไม่ไหว”
จื่ออานต้องเขยิบไปนั่งใกล้อีกหน่อย นั่งใกล้เขามากกว่านี้ ถ้าเทียบกับตอนที่เจอกันเมื่อก่อนมันรู้สึกผ่อนคลายมากกว่านี้ อย่างน้อยก็ไม่มีความกดดันแบบนี้
อย่างไรก็ตาม หากปราศจากความรู้สึกกดดัน มันก็ทำให้รู้สึกอึดอัดวางตัวไม่ถูก เพราะลมหายใจของเขาอยู่ต่ำกว่าเธอ และใบหน้ารูปงามนั้นก็ให้สะท้อนสีหน้าอ่อนโยนให้เห็นในดวงตาของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...