กุ้ยไท่เฟยเอ่ยออกมา “ได้ยินมาว่ามีมากกว่าร้อยคนที่มีอาการป่วยแล้ว ส่วนคนที่เหลือนั้นก็เคยสัมผัสกับผู้ที่ป่วยมาแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะติดโรคมาด้วยหรือไม่ จึงจำต้องปิดล้อมเมืองเอาไว้เพคะ”
หวงไท่โฮ่วเอ่ยออกมาด้วยความกังวล “แต่ว่าคนของหมู่บ้านศิลานี้ก็ไปมาหาสู่กับคนท้องที่อื่นอยู่บ่อย ๆ มีหรือไม่มีผู้ที่เข้ามาทำหาเลี้ยงชีพอยู่ในเมืองหลวง? หากว่ามีแล้วนั้น ในขณะที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแพร่ออกไปให้ผู้อื่น แต่ไม่ได้แสดงอาการออกมา หากเป็นเช่นนี้แล้วโรคระบาดนี้ก็จะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว”
กุ้ยไท่เฟยเองใบหน้าก็แสดงความกังวลออกมา “หมู่บ้านศิลานั้นมีราษฎรบางส่วนที่ทำไร่ทำนา แต่ว่าก็ยังมีอีกบางส่วนของราษฎรนั้นออกมาทำมาหาเลี้ยงชีพนอกเมือง แน่นอนว่าจะต้องเคยสัมผัสกันกับผู้อื่น ได้ข่าวมาว่าในจำนวนของผู้ที่มีอาการป่วยไข้นั้น ก็มีอยู่สิบกว่าคนที่ตั้งร้านทำการค้าขายเล็ก ๆ อยู่ในเมืองหลวง”
หวงไท่โฮ่วใบหน้าดูตกใจ “ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว อาการป่วยไข้นี้ก็อาจจะแพร่มายังเมืองหลวงได้? เมืองหลวงนั้นมีประชากรอยู่อย่างหนาแน่น หากว่ามีการแพร่กระจายออกไป นี่ไม่ได้การแล้ว”
กุ้ยไท่เฟยถอนหายใจออกมาเบา ๆ “หม่อมฉันเองก็เป็นกังวลในจุดนี้เช่นกัน มิเช่นนั้นก็คงจะไม่รีบร้อนเข้าวังมาคุยกับท่านพี่ เรื่องนี้ชั่งหนักหนาเอาการ ตอนนี้ผู้คนในเมืองหลวงจิตใจต่างก็พากันตื่นตระหนก ใคร ๆ ต่างก็พากันสงสัยว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นผีดิบ
“ผีดิบนี้นั้น?” หวงไท่โฮ่วป็นผู้ที่เสื่อมใสในพระพุทธศาสนา สำหรับเรื่องราวที่เหนือธรรมชาตินั้นมักจะปักใจเชื่อโดยที่ไม่มีข้อสงสัย “จะมีเรื่องอื่นแอบแฝงอยู่หรือไม่?”
กุ้ยไท่เฟยโบกมือ “ไม่ใช่ผีดิบอะไรกัน เป็นเพียงแค่โรคชนิดหนึ่งเท่านั้นเพคะ”
“หมอหลวงเองก็ไม่มีวิธีการแล้วไม่ใช่หรือ?”
กุ้ยไท่เฟยเอ่ยออกมา “บอกมาว่าไม่มีวิธีการแล้ว ไม่อย่างนั้น ท่านลองเรียกตัวหมอหลวงเข้ามาสอบถามดูเสียหน่อย?”
หวงไท่โฮ่วเอ่ยสั่งซุนกงกงลงไปในทันที “เรียกตัวใต้เท้าหยวนพ่านเข้ามา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...