หวงไท่โฮ่วเมื่อได้ฟังคำประโยคนี้ ในใจนั้นก็รู้สึกแย่เป็นอย่างมาก “จิ้นกั๋วกง คำพูดนั้นเอ่ยออกมาเยี่ยงนี้ไม่ผิดนัก แต่ทว่า หากว่าต้องการจะเผาทำลายหมู่บ้านนั้นทิ้ง ก็จะหมายถึงว่าจำต้องเผาทำลายชีวิตของชาวบ้านในหมู่บ้าศิลาหลายร้อยชีวิต มีบางคนที่เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ พวกเขายังมิได้ติดโรคร้ายนี้”
จิ้นกั๋วกงเอ่ยตอบกลับในทันที “หวงไท่โฮ่ว หากว่าต้องเผาทำลายชีวิตผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ ผู้ใดก็ไม่ยินยอม แต่แล้วจะมีวิธีการใดอีก? จนถึงทุกวันนี้ หมอหลวงและสำนักฮุ้ยหมินยังคิดถึงวิธีการรับมือกับโรคระบาดในครั้งนี้ไม่ได้ ราษฎรต่างก็เริ่มที่จะมีการคาดเดากันแล้วว่า นี่ไม่ใช่โรคระบาดอะไรทั้งนั้น แต่เป็นผีสาง ว่าเป็นเพราะสวรรค์กำลังลงทัณฑ์ต้าโจวอยู่ คำพูดซุบซิบเหล่านี้หากว่าแพร่ออกไปในทุกท้องที่แล้ว จะต้องทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่ราษฎรเป็นแน่ หากว่ามีผู้ที่ใจคิดการใหญ่จะต้องอาศัยช่วงโอกาสนี้ลงมือเป็นแน่ ทำลายขุนเขาของต้าโจวทิ้งเสีย เมื่อถึงตอนนั้น ขุนเขาของตระกูลมู่หรงก็จะอันตรายแล้ว”
ราชครูเหลียงเองก็ไตร่ตรองอยู่ครู่ใหญ่ จึงได้เอ่ยออกมา “หวงไท่โฮ่ว หม่อนฉันก็เห็นด้วยกับวิธีการที่จิ้นกั๋วกงเอ่ยออกมาพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้มิอาจยืดเยื้อได้อีกต่อไปแล้ว หากว่ายืดเยื้อออกไป ก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นอีก หากว่าเกิดความโกลาหลขึ้นในต้าโจวแล้ว ก็ยากที่จะรับรองได้ว่าทางด้านเป่ยโม่นั้นจะไม่ลงมือ”
หวงไท่โฮ่วโบกมือออกไป “ราชครูพูดออกมาเกินจริงไปเสียแล้ว เป่ยโม่และต้าโจวของเราได้ทำการตกลงตามข้อสัญญากันแล้ว”
ราชครูเหลียงเอ่ยออกมา “ไท่โฮ่ว นี่มันผ่านมาเท่าไหร่แล้ว มีจักรพรรดิกี่พระองค์มาแล้วที่ทำผิดข้อสัญญา? ท่านคงกลัว แต่ว่าคงจะมิอาจนับออกมาได้ ขุนเขาของต้าโจวพวกเรานั้นสวยงามเพียงใดกัน มีทั้งทุ่งกว้างและูเขาสูงใหญ่ ในสายตาของต่างเมืองนั้น ก็เป็นดังเนื้อหมูติดมัน ต่างก็คอยที่จะเฝ้าดูกันอยู่ ทุกวันนี้ต้าโจวของพวกเรา หากเป็นเพราะว่าโรคระบาดนี้ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้น ก็จะเป็นโอกาสอันดีของพวกเขาที่จะบุกรุกเข้ามา พวกเขาจะมามัวสนใจอันใดกันว่ามีสัญาหรือไม่มีสัญญากัน?”
ใต้เท้าชุยเองก็เอ่ยขึ้นมา “ที่ราชครูเอ่ยออกมานั้นไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล แต่ว่าการเผาทำลายหมู่บ้านทิ้งสุดท้ายแล้วก็ยังไม่ใช่ทางออกที่ดี เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คนมากมายนัก เผาหมู่บ้านศิลาทิ้ง แล้วทหารในกองทัพเล่า? แล้วผู้คนบนถนนซีเป่ยเล่า? ล้วนจะต้องถูกเผาทิ้งไปด้วยกันหรือไม่?”
ราชครูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หากว่าเมื่อถึงตอนที่ไม่มีวิธีการใดแล้ว ก็ต้องทำเป็นทางเลือกสุดท้าย อย่างไรเสีย ก็ดีกว่าปล่อยให้โรคระบาดแพร่กระจายไปทั่ว”
พรรคพวกของราชครูนั้น ค่อย ๆ ทยอยกันส่งเสียงออกมา “กระหม่อนขอให้หวงไท่โฮ่วแลท่านอ๋องทรงประทานคำสั่งลงมาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ เผาหมู่บ้านศิลาทิ้งเสีย เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรที่เกิดขึ้นด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
การคุกเข่าลงในครั้งนี้ เป็นเหล่าขุนนางที่คุกเข่าลงมากกว่าหนึ่งในสาม เป็นเหมือนดั่งการข่มขู่
มู่หรงเจี๋ยมองลงมายังศีรษะที่เป็นจุดดำ ๆ อยู่ด้านล่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตามีพายุกรุ่นโกรธที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
เซียวเซียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ราชครูนั้นแต่ละคำล้วนแต่เอ่ยว่าไม่มีทางเลือก ช่างทำให้ในใจของผู้คนดูเหน็บหนาวเสียจริง เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเป็นราชครูที่ติดโรคระบาดนี้เข้า ผู้อื่นเอ่ยว่าต้องการจะเผาทำลายท่านทิ้งเสีย ท่านจะรู้สึกอย่างไรกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...