เหล่าไท่จวินเมื่อเอ่ยแล้วก็ทำตามนั้น เมื่อจื่ออันเพิ่งจะจากไป นางก็สั่งคนให้เตรียมรถม้าไปจวนโหว
การกระทำที่กล้าหาญบางคราวก็ดูน่ากลัว โดยเฉพาะคนที่เคยอยู่ในสนามรบมาก่อน
จื่ออันกลับมายังจวนองค์หญิง ระยะนี้นางถือว่าจวนองค์หญิงนั้นเป็นบ้านของตนเองเสียแล้ว
เข้าจวนมาก็ถามกับหมอหลวง “ที่แม่นางคนนั้นนำมาเป็นเขาละมั่งโลหิตหรือไม่?”
หมอหลวงเอ่ย “ทูลพระชายา นางไม่ได้นำมา เพียงแต่บอกว่ามารดาของนางมีเขาละมั่งโลหิต ภายหลังให้นางดูรูปภาพ นางบอกว่าสีไม่ถูกต้อง เช่นนั้นก็คงจะไม่ถูกต้องแล้ว”
“สีไม่ถูกต้อง? นางบอกว่าสีมันเป็นอย่างไร?” จื่ออันเอ่ยถาม
“นางบอกว่าเป็นสีเหลือง ที่มีร่องรอยของสีโลหิต” หมอหลวงเอ่ยตอบกลับ
จื่ออันคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาละมั่งโลหิตเป็นเพราะปัญหาทางด้านการจัดเก็บ ก็อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์ของการเปลี่ยนสีขึ้น ควรจะตรวจสอบสักเล็กน้อยจะเป็นการดี “นางทิ้งที่อยู่เอาไว้หรือไม่? จะต้องไปดูด้วยตนเอง”
หมอหลวงเอ่ย “ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ แต่รู้ชื่อของนาง เหมือนจะเรียกว่าหวังอี๋เอ๋อร์”
หวังอี๋เอ๋อร์? ชื่อนี้ช่างคุ้นเคยนัก
เซียวท่าที่เพิ่งจะเดินเข้ามา เมื่อได้ยินคำของหมอหลวง เขาก็รีบร้อนเอ่ยถาม “หวังอี๋เอ๋อร์? ท่านบอกว่าวันนี้มีคนที่ชื่อว่าหวังอี๋เอ๋อร์มาอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว แม่นางที่วันนี้มาบอกว่าที่บ้านมีเขาละมั่งโลหิต” หมอหลวงเอ่ย
เซียวท่ามองไปยังอ๋องเหลียง เอ่ยออกมาด้วยความโมโห “วันข้าบอกกับท่านว่าเหมือนจะเห็นอี๋เอ๋อร์เข้า ท่านกลับไปเอ่ยอะไรออกมา? ท่านไม่ยอมบอกว่าอี๋เอ๋อร์เข้ามาก่อนแล้ว”
อ๋องเหลี่ยงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทีดูเฉยเมย “มาแล้วจะอย่างไร?”
“นางขึ้นรถม้าขององค์รัชทายาทไป!” เซียวท่าร้อนรนเสียจนกระวนกระวาย
อ๋องเหลียงลุกขึ้นมาในทันที “เจ้าว่าอะไรนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...