จ้วงจ้วงถาม “เจ้าสนิทกับนางในวัง และรู้เรื่องระหว่างนางกับมู่หรงเฉียวมากที่สุด เจ้าคิดว่านางชอบมู่หรงเฉียวจริงหรือ?”
สนมเหมยตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของจ้วงจ้วง นางรีบกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “องค์หญิง ท่านไม่อาจพูดเหลวไหลได้นะเพคะ เราไม่มีหลักฐาน”
จื่ออันกล่าวว่า “สนมเหมยวางใจได้ เจ้าสามารถพูดทุกอย่างที่นี่ได้อย่างอิสระ อย่างที่ข้าบอกกับองค์หญิงเมื่อครู่นี้ ต้องพิจารณาให้ชัดเจน และตรวจสอบอย่างรอบคอบ”
สนมเหมยมองจ้วงจ้วง “คือว่า... ข้าไม่รู้จะพูดอันใดดี”
จ้วงจ้วงถามด้วยความสงสัย “นางไม่ได้เปิดเผยต่อหน้าเจ้าหรอกหรือ?”
“ไม่ใช่ว่าไม่ได้เปิดเผยเพคะ แต่ข้าเคยพบสองหรือสามครั้ง องค์รัชทายาทเข้า ๆ ออก ๆ ตำหนักของนาง ตั้งแต่ตอนที่พระองค์มีพระชนมายุได้สิบหกพรรษา”
“นั่นมันสี่หรือห้าปีมาแล้ว” จ้วงจ้วงกลอกตา “สนมอี้ผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก ขณะนั้นฮ่องเต้ยังไม่ทรงพระประชวรเลย”
“นางกล้าหาญจริงเพคะ ข้ายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางถึงไม่หลีกเลี่ยง เรื่องเช่นนี้เราไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ นับประสาอันใดกับกล้าทำ นางทำเช่นนั้นโดยไม่เกรงกลัวว่าคนจะรู้”
หลังจากหยุดครู่หนึ่ง นางก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะพูด “ไม่ใช่ว่านางไม่กลัวคนรู้ แต่นางเก็บความลับได้ดี ข้าเชื่อว่านอกจากข้าและพระชายาแล้ว ก็คงไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้เพคะ”
“เจ้าคิดว่าเหตุใดนางถึงทำเช่นนี้? มู่หรงเฉียวนั้นเป็นเพียงขยะ เหตุใดสนมอี้ถึงตกหลุมรักเขา?” จ้วงจ้วงกล่าว
มันช่างน่าฉงนเสียจริง
จื่ออันหัวเราะ แล้วพูดว่า “สับสนอันใดกันเล่า? แม้ว่ามู่หรงเฉียวจะเป็นขยะ แต่ไท่ฟู่และอดีตฮองเฮาไม่ใช่เสียหน่อย การเข้าใกล้มู่หรงเฉียว ก็เท่ากับการเข้าใกล้ไท่ฟู่และฮองเฮาเช่นกัน มีหรือที่ข่าวจะไม่หลุดขณะอยู่บนเตียง?”
จ้วงจ้วงตกตะลึง “จื่ออัน คำพูดของเจ้าอาจฟังเป็นไปได้ แต่หลังจากคิดดูแล้วก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผล หากนางเป็นไส้ศึก การเข้าใกล้มู่หรงเฉียวก็เท่ากับเข้าใกล้ความลับของต้าโจว แต่นางเป็นไส้ศึกของผู้ใด? นางเป็นสมาชิกของราชวงศ์ต้าโจว”
หลังจากที่สนมเหมยจากไป จื่ออันและจ้วงจ้วงก็พูดคุยกันต่ออีกนาน แต่ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้
เมื่อมู่หรงเจี๋ยกลับมาตอนกลางคืน จื่ออันก็เล่าเรื่องสนมอี้ให้เขา ฟังมู่หรงเจี๋ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ข้าจะเขียนจดหมายถึงซ่งรุ่ยหยาง เพื่อขอให้เขาถามกงซุนเยี่ยน”
“กงซุนเยี่ยนต้องมีช่องทางติดต่อกับสนมอี้ ดีที่สุดคือถามเขา” จื่ออันตระหนักได้ทันทีเพราะเขา นางหัวเราะ “ข้าคุยกับจ้วงจ้วงอยู่ตั้งนาน แต่ก็คิดหาทางแก้ปัญหาไม่ออก ท่านอ๋องช่างสมองใสยิ่งนัก”
“นั่นคือคำชมใช่หรือไม่?” มู่หรงเจี๋ยหรี่ตามองนาง
“แน่นอนว่าเป็นคำชมเต็มร้อย”
“จะรับไว้!” มู่หรงเจี๋ยนั่งลงเอนหลังพิงเก้าอี้ หลับตา แล้วพูดด้วยความเหนื่อยล้า “มาช่วยฝังเข็มให้ข้าที ข้าปวดหัวยิ่งนัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...