ที่แท้ก็มาเพื่อขับไล่นางออกไปเองหรือ? รอยยิ้มเยาะเย้ยบนริมฝีปากของจื่ออันชัดเจนขึ้น “พระราชวังออกจะใหญ่โตถึงเพียงนี้ เหตุใดจะไม่มีที่สำหรับเซี่ยจื่ออัน? หากสนมอี้ต้องการขับไล่ข้า เช่นนั้นข้าต้องไปถามฝ่าบาทก่อนว่าทรงเห็นด้วยหรือไม่?”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อถวายการรักษาอีกต่อไปแล้ว ข้าจะบอกพระองค์ว่าเจ้าป่วยเป็นโรคร้ายแรง ไม่สามารถถวายการรักษาพระองค์ได้อีกต่อไป” สนมอี้พูดอย่างเย็นชา
“ข้าจำได้ว่าตอนแรกที่สนมอี้เข้ามา ท่านบอกว่าตนเองมาที่นี่เพื่อปลอบโยนข้านี่ วิธีการปลอบโยนคือการขับไล่ข้าออกไปหรือ?” จื่ออันอยากรู้นัก นางไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงคิดว่าตนสามารถขับไล่นางออกไปอย่างไรก็ได้?
“เซี่ยจื่ออัน ข้าเชิญเจ้าออกไปก็เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง หากเจ้าอยู่ที่จวนจะไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับเจ้า เจ้าจะยังคงเป็นพระชายา สามารถเพลิดเพลินไปกับเกียรติยศและความมั่งคั่งที่ตนพึงมี แต่ในพระราชวังแห่งนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะมีชีวิตที่มั่นคง”
“ขอบคุณสนมอี้ยิ่งนัก แต่ข้าเป็นคนต่ำต้อย ไม่มีเกียรติยศหรือความมั่งคั่งให้ได้ดื่มด่ำเพลิดเพลิน ดังนั้นข้าขอใช้ชีวิตที่ไม่มั่นคงเช่นนี้ต่อไป ข้าจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้? ในเมื่อรอบกายข้ารายล้อมไปด้วยผู้คนที่สักแต่สร้างปัญหา” จื่ออันกล่าววาจายอกย้อนตามประสา
สนมอี้เย้ยหยัน “หมายความว่าเจ้าเต็มใจจะตกลงไปในน้ำโคลนเช่นนี้หรือ?”
“ข้ามีสิทธิ์เลือกด้วยหรือ?” จื่ออันเย้ยหยันกลับ
สนมอี้แสยะยิ้มทันที มองจื่ออันอย่างแน่วแน่ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าคนอย่างเจ้าไม่มีทางจากไปแน่ พูดตามตรง ข้ากลัวจริง ๆ ว่าเจ้าจะกลัวหัวหดจนหนีไป ชีวิตข้าหาได้ยากยิ่งที่จะเจอคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกัน กลศึกครั้งต่อไป จะน่าสนุกสนานตื่นตาสักเพียงใดกันนะ?”
จื่ออันรู้สึกว่ารอยยิ้มของนางแปลกประหลาด เขี้ยวและกรงเล็บของนางไม่ทำให้ผู้คนเกิดความประหม่า ตรงกันข้าม นางกลับบดขยี้ทุกสิ่งโดยการใช้ภัยคุกคามครอบงำ ความกดดันเช่นนี้ถือเป็นอาวุธของนาง และนางก็ใช้มันได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นางพูดในวันนี้ ประกอบกับความวุ่นวายในตำหนักเย็นที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ทำให้จื่ออันยืนยันได้สิ่งหนึ่ง
จื่ออันตอบกลับอย่างใจเย็น “ใครก็ได้ ส่งสนมอี้!”
สนมอี้ไม่ยอมยืนขึ้น นางพูดอย่างสบาย ๆ “ทำไมเจ้าถึงได้รีบร้อนนัก? ข้าไม่มีธุระอื่นใดเสียหน่อย ปล่อยให้ข้าอยู่ในตำหนักฉางเซิงของเจ้าต่อไปสักพักไม่ได้หรือ? เราสองต่างก็เป็นสะใภ้หลวงกันทั้งคู่ ควรผูกมิตรให้สนิทชิดเชื้อมากขึ้น”
จื่ออันกล่าว “สนมอี้ หากท่านต้องการอยู่ต่อ เช่นนั้นก็เชิญอยู่ต่อได้ตามสบาย ข้าคงไม่มีเวลามานั่งอ้อร้อกับท่าน”
หลังจากพูดจบ นางสั่งให้เสี่ยวซุนไปหยิบกล่องยา “ไปที่วังซีเหวยกันเถอะ”
“ปล่อยให้แขกอยู่ในบ้านตัวเองลำพังคงไม่ดีกระมัง?” สนมอี้แสร้งทัดทาน
“แขกอะไรกัน? ท่านเพิ่งบอกไปแท้ ๆ ว่าพวกเราต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ข้าควรให้อิสระกับสมาชิกในครอบครัวถึงจะถูก” ว่าแล้วจื่ออันก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...