วันรุ่งขึ้น เขานำยาแก้พิษเข้าไปในพระราชวัง และมอบให้กุ้ยไท่เฟย “ท่านแม่ โปรดจำไว้ว่าท่านต้องกินยาแก้พิษก่อน แล้วจึงดื่มยาพิษ อย่าได้สับสนลำดับเป็นอันขาด มิฉะนั้นยาแก้พิษจะไม่เป็นผล”
“อืม ข้าจำได้แล้ว” กุ้ยไท่เฟยถือขวดยาแก้พิษไว้ในมือ มือของนางสั่นเทาเล็กน้อย สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย
“ท่านแม่ เป็นอะไรไปหรือ?” อ๋องหนานหวายสังเกตเห็นความผิดปกติในตัวนางจึงเอ่ยถาม
กุ้ยไท่เฟยสูดจมูก “ข้าไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน แต่วันนี้ข้ารู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว ตั้งแต่ตอนแรกที่ตื่นลืมตา อาจต้องเรียกหมอหลวงมาตรวจเสียหน่อย”
“ท่านป่วยไข้หรือไม่? จากนี้ข้าจะไม่ได้อยู่เคียงข้างท่านแล้ว ฉะนั้นท่านต้องใส่ใจกับสุขภาพร่างกายของท่านให้ดี”
กุ้ยไท่เฟยมองดูเขาแล้วถอนหายใจเบา ๆ “ชีวิตข้าช่างลำบากยากเข็ญ ข้าให้กำเนิดบุตรชายถึงสองคน แต่กลับไม่มีใครอยู่เคียงข้างข้าเลย”
“ท่านแม่ อย่าได้กล่าวตัดพ้อเช่นนั้น ข้าจากไปเพียงชั่วคราวเท่านั้น อีกไม่นานก็กลับมาแล้ว”
“ใช่” กุ้ยไท่เฟยมองเขา “เจ้าต้องกลับมาแน่”
“ข้าจะเดินทางออกจากเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ ท่านแม่โปรดรักษาตัวด้วย” อ๋องหนานหวายลุกขึ้น คุกเข่าลงบนพื้น แล้วโค้งคำนับสามครั้ง “น่าเสียดายนักที่ท่านแม่สุขภาพไม่สู้ดี ลูกชายคนนี้ไม่อาจพาท่านไปด้วยได้ ข้ารู้สึกละอายใจยิ่งนัก”
กุ้ยไท่เฟยนั่งบนเก้าอี้ ยอมรับการคำนับทั้งสามครั้งจากเขาอย่างใจเย็น จากนั้นยื่นมือไปประคองให้เขาลุกขึ้น “ข้ารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาอย่างไรชอบกล ว่าครั้งนี้เจ้าอาจไม่ได้จากไปไกล”
“เหตุใดท่านแม่ถึงรู้สึกเช่นนั้น?” อ๋องหนานหวายลอบประหลาดใจ ทว่าสีหน้ายังคงสงบ
“ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม คงเป็นเพราะสัญชาตญาณลึก ๆ บอกว่า คราวนี้เจ้าก็คงไม่ได้จากไปไกลเช่นกัน” กุ้ยไท่เฟยเผยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มของนางเย็นชานัก
อ๋องหนานหวายมองดูนาง หัวใจพลันคันยุบยิบขึ้นมาทันที นางคงไม่รู้เรื่องทั้งหมดหรอกใช่หรือไม่? ฟางเอ๋อร์ไม่มีทางพูดจาไร้สาระ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...