ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 82

เมื่อซูโหยวเห็นว่าบรรยากาศตึงเครียด เขาจะก้าวออกไปพูดจาโน้มน้าวผู้เป็นนายทันที "ท่านอ๋อง ที่ตำหนักยังมีคนที่ยังคลุ้มคลั่งและไม่ได้สติอีกไม่น้อย หากเรามิอาจจัดการเรื่องนี้ได้ คืนนี้อาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นก็เป็นพ่ะย่ะค่ะ

เมื่อได้เห็นความสามารถของลั่วชิงยวนในตอนนี้ ก็เห็นได้ชัดว่า ลั่วชิงยวนสามารถจัดการกับสิ่งที่ผู้อื่นมิอาจควบคุมได้ เขาเกรงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะมิใช่เหตุการณ์ปกติธรรมดา และคงไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะรับมือได้!

ฟู่เฉินหวนลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ในที่สุดก็ไม่ถือสาเอาความลั่วชิงยวนอีก

เขาลดน้ำเสียงลง "ข้าจะไม่ถือสาเอาความเจ้าสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในตำหนัก"

“แต่ข้ามีข้อแม้...”

ก่อนที่ฟู่เฉินหวนจะทันได้พูดจนจบประโยค ลั่วชิงยวนก็หันหลังกลับและเดินออกไป นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เวลาต้องการความช่วยเหลือ ท่านก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้รวดเร็วเสียจริง"

คำพูดเหน็บแนมเหล่านั้นทำให้ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น

สิ่งที่ได้ยินทำให้หัวใจของซูโหยวเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นสายตาอาฆาตแค้นฉายอยู่ในดวงตาของผู้เป็นนาย เขาก็รีบเอื้อมมือไปคว้าแขนของฟู่เฉินหวนเอาไว้ "ท่านอ๋อง..."

อดกลั้นเอาไว้!

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว กัดฟันกรอด "ลั่วชิงยวน!"

ซูโหยวตกใจเป็นอย่างมาก ท่านอ๋องของเขาไม่เคยอารมณ์เสียขนาดนี้มาก่อน นับตั้งแต่พระชายาเข้ามาอยู่ในตำหนัก ท่านอ๋องก็อารมณ์ไม่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ

ลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเสียงเอะอะจากด้านนอก จึงเปิดประตูแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปด้วยความกังวล “ท่านอ๋อง เป็นอะไรหรือเพคะ เกิดอะไรขึ้น?”

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อลั่วเยวี่ยอิงเข้ามาหาเขา หัวใจของเขาก็สงบขึ้นทันที และความเดือดดาลที่อยู่ในใจของเขาก็น้อยลงไปมาก

น้ำเสียงของเขาอ่อนลงทั้งยังอ่อนโยนขึ้น "ข้าไม่เป็นอะไร ขอให้ซูโหยวส่งเจ้ากลับเรือนนอนเถอะ เจ้าจะได้พักผ่อนและกินโอสถที่หมอกู้สั่ง! ไม่ต้องกังวลเรื่องที่เกิดขึ้นหรอก"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วเยวี่ยอิงก็พยักหน้า "เพคะ ฝ่าบาท พระองค์ก็ต้องดูแลตัวเอง อย่าได้ขุ่นเคืองใจบ่อยนัก โทสะจะทำร้ายร่างกายของพระองค์เอาได้เพคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย