ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 919

”เขายังเตือนทุกคนว่า ยามกลางคืนห้ามเดินเพ่นพ่าน หากได้ยินเสียงอะไรก็ให้เพิกเฉยเสีย”

“พวกเขายังใส่ยาที่ทำให้ง่วงในทุกจานด้วย หากใครกินเข้าไปก็จะง่วงนอน”

“กระหม่อมรู้สึกแปลก ๆ จึงคอยระมัดระวัง มิได้กินยาและมิยอมนอน เป็นไปตามคาด กระหม่อมได้ยินเสียงของแม่นางลั่วเข้า”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา

“อำนาจยิ่งใหญ่ดีจริง ๆ แม้แต่สำนักหมอหลวงยังถูกควบคุมเช่นนี้ได้”

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “คนที่ข้าไล่ตามไปก็หายไปเช่นกัน”

แต่ฟู่เฉินหวนกล่าวว่า “ตราบใดที่คนมิเป็นไรก็ดีแล้ว”

เนื่องจากเป็นเวลาดึกแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงจึงถูกส่งไปที่เรือนด้านข้างเพื่อพักผ่อน

เดิมทีเซิ่งไป่ชวนคิดจะกลับไป แต่ถูกลั่วชิงยวนรั้งเอาไว้

“เจิ้งอู๋เหลียงมิอนุญาตให้ใครเดินเตร็ดเตร่ยามกลางคืน หากท่านกลับไปตอนนี้ พวกเขาต้องรู้แน่ว่าท่านไปทำอะไรมา ข้าเกรงว่าพวกเขาจะมิปล่อยท่านไป”

“เหตุใดท่านมิอยู่ที่นี่ และช่วยข้าดูอาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดเล่า?”

เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า “ขอรับ”

ในขณะที่เซิ่งไป่ชวนไปต้มยาลั่วชิงยวนก็เดินไปที่เตียง แล้วยกม่านขึ้น จึงเห็นว่าจักรพรรดิสูงสุดยังคงลืมตาอยู่ และยังมิได้หลับไป

นางตรวจดูคอของเขาแล้วพบว่ามีเพียงรอยแดง และไม่มีรอยแผล

“ฝ่าบาท คืนนี้เรามิสามารถจับคนผู้นั้นได้ เกรงว่าคราวนี้คงต้องใช้มาตรการขั้นรุนแรงเท่านั้นกับไทเฮาจึงจะได้ผลเพคะ”

จักรพรรดิสูงสุดพยักหน้าโดยมิลังเล

ลั่วชิงยวนกล่าวเสริม "หม่อมฉันขอบอกท่านไว้ก่อนว่า หม่อมฉันจะใช้เข็มกระตุ้นเส้นลมปราณของพระองค์ และช่วยให้ท่านยืนขึ้นได้ชั่วคราวและถือพู่กันได้ แต่สิ่งนี้เป็นอันตรายต่อพระวรกายของพระองค์”

“ถ้าหากพระองค์ยินยอม หม่อมฉันจะฝังเข็มให้พระองค์เพคะ”

จักรพรรดิสูงสุดพยักหน้าอีกครั้งโดยมิลังเล

เมื่อเทียบกับความเสียหายเล็กน้อยนี้ เขาอยากลองสัมผัสความรู้สึกของการยืนขึ้นอีกครั้งมากกว่า

การยืน เดิน และจับพู่กัน ดูเหมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อชาติที่แล้ว

เขาเกือบลืมไปแล้วว่ามันรู้สึกอย่างไร

ฟู่เฉินหวนก้าวไปข้างหน้าด้วยความสับสน “เหตุใดเสด็จพ่อถึงยอมสื่อสารกับเจ้าเพียงผู้เดียว?”

ลั่วชิงยวนเหลือบมองเขาอย่างเฉยชา ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย