สรุปตอน บทที่ 322 มันสายเกินไปแล้ว ที่จะยอมรับข้อผิดพลาดของเขา – จากเรื่อง บ่วงเสน่หา คุณชาย อันตราย โดย ฉี แม่น้ำสายเก่า
ตอน บทที่ 322 มันสายเกินไปแล้ว ที่จะยอมรับข้อผิดพลาดของเขา ของนิยายRomanceเรื่องดัง บ่วงเสน่หา คุณชาย อันตราย โดยนักเขียน ฉี แม่น้ำสายเก่า เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเธอใช้พลังงานไปเยอะหลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หญิงสาวจึงเป็นลมหมดสติไป
ที่ชั้นบนในอพาร์ตเมนต์
เอลิออร์กำลังเก็บข้าวของ ชุดยาต่าง ๆ ของเขากลับเข้ากล่อง "เธอไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แต่สภาพร่างกายของเธอในตอนนี้มันย่ำแย่มาก ๆ หลังจากนี้เธอจะต้องปรับสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน รวมไปถึงดูแลตัวเองละเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น... "
เมื่อเอลิออร์พูดอย่างนั้นออกมา เขาก็หยุดและมองไปที่หญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงและเม้มริมฝีปากของเขา ก่อนจะพูดต่ออีกว่า "จะเป็นการดีที่สุด ที่เธอจะไม่ใช้แรงหรือพลังงานมากจนเกินไป เธอควรอยู่บ้านและพักฟื้น จนกว่าที่ร่างกายของเธอจะดีขึ้น"
แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่า เธอจะสามารถดูแลร่างกายที่ย่ำแย่ของเธอนั้นให้มันกลับมามีสุขภาพที่ดีแข็งแรงได้เมื่อไหร่
ระบบการทำงานขั้นพื้นฐานในร่างกายของเธอนั้น มันได้รับความเสียหายอย่างมากและย่ำแย่จากการที่เธอหักโหมร่างกาย
"นอกจากนี้ฉันขอแนะนำว่า นายควรที่จะพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดเมื่อเธอฟื้นขึ้นมา”
“ในตอนนี้ฉันไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เพรียบพร้อมอยู่กับตัว ดังนั้นฉันจึงไม่แน่ใจว่าเธอบาดเจ็บสาหัสหรือกระทบกระเทือนมากแค่ไหน”
“การตรวจของฉันมันตรวจได้แค่เบื้องต้น…ยังไม่ละเอียด เราต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ สำหรับทุกสิ่ง"
เมื่อเอลิออร์บรรจุชุดยา และเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในดวงตาของชายคนนั้นที่อยู่ข้าง ๆ เตียงเมไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ เขายื่นมือออกไปเพื่อยกผ้านวมคลุมร่างกายให้ความอบอุ่นแก่หญิงสาวบนเตียง และพูดออกมาเบา ๆ ว่า "ไปคุยที่ห้องนั่งเล่นกันเถอะ"
เอลิออร์มองตามแผ่นหลังของชายที่ดูเศร้าราวกับแบหโลกทั้งใบไว้บนบ่าเดินนำหน้าเขาออกจากห้องไป เอลิออร์อดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบนใส่ชายคนนั้น... แม้ว่าจะมีเสียงฟ้าร้องดังมากขนาดไหนก็ตามที แต่มันก็ยังไม่สามารถทำให้ผู้หญิงคนนี้ที่หลับใหลอยู่บนเตียงตื่นขึ้นมา
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รำคาญที่จะโต้เถียงกับเพื่อนรักของเขาคนนี้เลย เขาถือชุดยาและอุปกรณ์ของเขาและวิ่งเหยาะ ๆ ตามหลังเพื่อนของเขาไป
ถ้วยชาถูกวางอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่น และเขาก็นั่งลงพร้อมไขว่ห้างขาเรียวยาวของเขาด้วยท่าทางสบาย ๆ
"เนื่องจากนายก็กลับมาแล้ว ฉันอยากจะขอความช่วยเหลือจากนายหน่อย"
เอลิออร์เงยหน้าขึ้นทันที เขาเอื้อมมือไปลูบหน้าอกตัวเองราวกับว่ากำลังลูบหัวใจดวงน้อย ๆ ของเขาด้วยความรู้สึกตกใจ "อย่ามาทำตัวแปลก ๆ ให้ฉันตกใจสิ เข้าประเด็นเลย"
ขอความช่วยเหลือหรอ? เอลิออร์เติบโตมาพร้อมกับเพื่อนซี้คนนี้ จนถึงวันนี้ไม่ค่อยมีสิ่งใดที่จะทำให้ชายหนุ่มสจ๊วตผู้ร่ำรวยคนนี้ใช้คำว่า "ขอความช่วยเหลือ" จากเขามาก่อนเลย
หวังว่าเขาจะไม่ขอในสิ่งที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกไม่แฮปปี้หรอกนะ ใช่ไหม?
ทันทีที่ความคิดนี้เข้ามาครอบงำจิตใจของเขา เสียงทุ้มต่ำของชายคนนั้นก็ค่อย ๆ เข้ามาในหูของเขา
"นายรู้ไหม เธอโกหกฉัน?"
"ฮะ อะไรนะ?"
สายตาของชายคนนั้นมองต่ำลง "เธอบอกว่า เธออยากใช้เวลาอยู่คนเดียวสักพัก แต่เธอโกหกฉัน”
“เธอต้องการที่จะแอบไปบริจาคไขกระดูกให้กับเจสัน โดยที่ไม่บอกฉัน”
ในขณะที่เขาพูดอย่างนั้น เขาก็ยื่นเอกสารให้กับเอลิออร์ “เธอได้เซ็นสัญญาบริจาคไขกระดูกให้เขาแล้วด้วยซ้ำ”
เอลิออร์หยิบเอกสารขึ้นมาตรวจสอบ และเขาก็เงียบไปชั่วขณะ “ถ้านายยื่นมือเข้าไปในเรื่องนี้ แผนของเธอก็จะล้มเหลว ไม่ใช่หรอ?”
"พูดกันตามตรงนะ ไม่ว่าจะเป็น เจสัน โจเซฟ หรือคนอื่น ๆ ในครอบครัวดันน์ ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องใด ๆ ของพวกเขาเลย”
“ลูกชายนอกสมรสของโจเซฟเป็นคู่ปรับกับเจสัน ฉันรู้เรื่องนี้มานานแล้ว”
“โจเซฟและคนรักของเขาทำผลการทดสอบเท็จขึ้นมาอย่างลับ ๆ ทั้งหมดก็เพียงเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ลูกนอกสมรสคนนั้น บริจาคไขกระดูกของเขาให้กับเจสัน”
“ฉันแค่ดูสิ่งที่พวกเขากำลังแอบทำกันอย่างลับ ๆ ”
"ทำไมนายไม่บอกภรรยาของนาย เกี่ยวกับเรื่องนี้? ถ้านายบอกเธอ เธอก็คงจะไม่เซ็นสัญญาบริจาคนี้ ถูกไหม?"
"ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเธอไม่สนครอบครัวดันน์แล้ว นอกเหนือจากความรักที่เธอมีต่อคุณปู่ของเธอ เนื่องจากเธอดูไม่ค่อยสนใจพวกเขาแล้ว ฉันจึงไม่อยากให้เรื่องนี้ไปรบกวนเธอ ฉันก็เลยไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเธอ"
เอลิออร์เลือกที่จะเงียบ เขารู้ว่าฌอนเป็นที่ไม่ค่อยสนใจอะไร
แทบจะไม่มีผู้คน และสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ ที่สามารถทำให้เขาสนใจและห่วงใยได้
นอกเหนือจากเรย์ เหล่าพี่น้องคนสนิทแล้ว เจนเป็นเพียงคนเดียวที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเขา
เมื่อพูดถึงครอบครัวดันน์แล้ว เขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าหากเจนไม่ได้รับผลกระทบจากการที่สมาชิกครอบครัวดันน์เสียชีวิต ฌอนจะไม่มีทางสนใจครอบครัวนี้อย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจสันสามารถรักษาได้ เขาก็จะเฝ้าดูอย่างเย็นชาอยู่ห่าง ๆ ขณะที่เจสันเสียชีวิต
ในขณะที่พวกเขาคุยกันชายข้าง ๆ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และพูดขึ้นว่า "ดูเบอร์นี้สิ"
เอลิออร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขารู้สึกว่ามันคุ้นมาก ๆ แต่เขาก็นึกไม่ออกในขณะนี้ "นี่คือ?"
"หมายเลขนี้ไม่ได้เมมชื่อไว้ และนี่ก็เป็นสายแรกที่เธอโทรออก หลังจากที่ออกมาจากบริษัทสจ๊วตอุตสาหกรรมในวันนั้น”
“ฉันคิดว่ามันแปลก ฉันเลยจ้างคนไปสืบ ลองเดาดูสิ นายคิดว่าหมายเลขนี้เป็นของใคร?”
“สามปีที่แล้ว เธอไม่ลังเลที่จะใช้เวลา และแรงกายเพื่อกำหนดเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยให้เธอหลบหนีไปจากเขา”
“สามปีต่อมาเธอก็พยายามหนีอีกครั้ง ในคราวนี้เธอยอมทุกอย่าง” ชายคนนั้นกล่าวด้วยความขมขื่นผ่านทางริมฝีปากบาง ๆ ของเขา
“ฉันรู้ว่าฉันมันทำพลาด…ฉันแค่อยากเติบโตไปพร้อมกับเธอ แต่เธอกลับใช้ทั้งชีวิตของเธอเพื่อหนีไปจากฉัน”
“เอลิออร์ ในวันเกิดปีที่สิบแปดของเธอ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง ฉันจะรักผู้หญิงคนนี้อย่างจริงจัง”
“ถ้าฉันรู้ตั้งแต่ตอนนั้น ฉันจะอุ้มเธอขึ้นบ่า โยนเธอลงบนเตียง และทำให้เธอกลายมาเป็นของของฉัน”
เอลิออร์ฟังอย่างเงียบ ๆ ฌอนบอกว่าเขารู้ว่าเขาทำผิด…ผู้ชายที่สูงส่งตรงหน้าเอลิออร์คนนี้ กำลังบอกว่าเขารู้สึกสำนึกผิด ...
ขณะที่เขาพูดสิ่งต่าง ๆ ออกมา เขาดูเหมือนกับคนที่กำลังจะสิ้นหวังจากโลกใบนี้
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ตั้งแต่ตอนนั้น ลูก ๆ ของเราทุกคน ในตอนนี้คงจะเรียนอยู่ชั้นประถมกันแล้วสินะ”
เมื่อเอลิออร์ได้ฟังเช่นนั้น เขาก็รู้สึกเพียงว่าคำพูดเหล่านี้เหมือนน้ำมันเดือดที่ไหลรินลงบนหัวใจและเนื้อหนังเสียงดัง ฉ่า ฉ่า! และเนื้อกำลังจะสุกในน้ำมันที่เดือด เขารู้สึกอึดอัดอย่างไม่มีเหตุผล
"ฉันจะดื่มกับนายเอง"
"ฉันดื่มไม่ได้ เธอจะหิวมาก เมื่อเธอตื่นขึ้นมา" เมื่อเขาพูดอย่างนั้นจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนเดินไปที่ตู้เย็นและหยิบผักออกมาจากตู้
"ฉันจะต้มโจ๊กไว้ เธอจะต้องกินอาหารอ่อน ๆ หลังจากฟื้นขึ้นมา"
เขาวางผักลงบนเคาน์เตอร์บาร์ และเขาก็หยุดชะงักทันทีที่เขาเห็นว่าถังขยะนั้นล้นออกมาแล้วจากปลายหางตาของเขา
หลังจากจ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่ง ชายคนนั้นก็ก้มตัวลง และหยิบถุงรองขยะออกจากถังและเปลี่ยนใบใหม่
เอลิออร์มองชายที่กำลังเก็บขยะ และล้างถ้วยชามอยู่หลังอ่างอย่างเงียบ ๆ เขาคิดในใจว่าเทพเจ้าแห่งโชคชะตากำลังเล่นตลกกับเขาอยู่แน่ ๆ
หลังจากที่ทุกอย่างกลับเข้าที่แล้ว ชายคนนั้นก็หันกลับมาและพูดว่า "คนรักตัวน้อยของโจเซฟได้เซ็นสัญญาบริจาคไขกระดูกแล้ว เอลิออร์ ฉันจะปล่อยเจสันไว้ในมือของนาย"
เอลิออร์มองไปที่ชายคนนั้น ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจได้ว่า…ฌอนจะห่วงใยใครก็ตาม ที่เจนนั้นห่วงใย
สำหรับการปลูกถ่ายไขกระดูกส่วนที่สำคัญคือการผ่าตัด และการป้องกันรักษาหนึ่งเดือนหลังจากการผ่าตัด ฌอนกังวลว่าเจนจะรู้สึกแย่หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเจสันหลังการผ่าตัดนั้น
"โอเค ฉันจะดูแลรักษาเขาด้วยตัวของฉันเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงเสน่หา คุณชาย อันตราย
‘ งั้นเขาจะช่วยให้เธอฟื้นคืนความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีที่หายไป -’ โอ๊ย ก็มึงนั่นแหล่ะเป็นคนทำให้เจนตกอยู่ในสภาพแบบนี้...
อ่านแล้วก็อึดอัดแทน อยากให้ความจริงเปิดเผยเร็ว ๆ และเจนสามารถออกไปใช้ชีวิตดี ๆ อยู่ห่าง ๆ จากคนสารเลวพวกนี้ ไม่อยากให้ให้อภัยใครเลย...