ในที่สุดเจนก็ตื่นฟื้นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมาห้องก็มืดสลัว เธอลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เธอไม่ได้ตกใจกับชายที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาภายใต้แสงไฟอันอบอุ่นในห้องนั่งเล่นนั้น
ในห้องนั่งเล่นระดับเสียงของทีวีนั้นมันถูกตั้งไว้ในระดับที่ต่ำที่สุด ราวกับว่าเขากังวลว่าเขาจะรบกวนเธอจากการพักผ่อน ถ้าหากเขาเปิดเสียงดังกว่านี้
เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากทางเดิน ชายคนนั้นรีบหันไปมองทันที
พวกเขาทั้งสองสบตากัน
อารมณ์ของพวกเขาทั้งสองดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันดูราวกับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมานานมากแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจซึ่งกันและกันโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร พวกทั้งสองไม่ได้ทำลายความสงบสุขที่แปลกประหลาดนี้
ทุกอย่างมันดูราวกับว่า ... พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติ
ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เขาอุ่นโจ๊ก และวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์
หญิงสาวเดินเข้าไปเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็นั่งทานอาหาร
ดูเหมือนกับว่าที่นี่มันไม่เคยมี ความรัก – ความเกลียด พัวพันระหว่างทั้งสอง ไม่มีความทรงจำที่เจ็บปวดร่วมกันเกิดขึ้น
ทุกคนอาจจะคิดว่าบรรยากาศช่างเต็มไปด้วยความรัก แม้กระทั่งภาพลวงตาที่ดูราวกับว่าทุกอย่างมันโอเคมาก ๆ
แกร๊ก
หลังจากตักโจ๊กร้อน ๆ เข้าปากเป็นคำสุดท้าย เธอก็วางตะเกียบลงซึ่งมันส่งเสียงดังเล็กน้อยบนเคาน์เตอร์นั้น
"ปล่อยฉันไป"
ด้วยน้ำเสียงที่หยาบกร้าน ผู้หญิงคนนั้นพูดทั้งสามคำอย่างช้า ๆ
ชายคนนั้นกำลังล้างถ้วยและตะเกียบ มือของเขาถึงกับหยุดกลางอากาศ "คุณคงเหนื่อยมาก เอลิออร์บอกว่าร่างกายของคุณกำลังย่ำแย่ คุณควรพักผ่อนเยอะ ๆ ฉันจะไปซูเปอร์มาร์เก็ตพรุ่งนี้เช้า เพื่อซื้อไก่มาทำซุปให้คุณ"
"ปล่อยฉันไป" ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบ ๆ ของเธอ เธอไม่ได้ถามคำถามในสิ่งที่ชายคนนั้นเพิ่งตอบเสียหน่อย
"เป็นเด็กดี เถอะนะ" ชายคนนั้นเก็บถ้วยและตะเกียบลงหลังจากที่ล้างเสร็จ จากนั้นเขาล้างมือ และเช็ดมันให้แห้ง ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงโอบแขนรอบเอวของผู้หญิงจากด้านหลัง "ไปนอนเถอะ ทุกอย่างจะดีขึ้นหลังจากที่คุณนอนหลับพักผ่อน"
“ปล่อยฉันไป” เธอพูดออกมาด้วยท่าทางนิ่ง ๆ
เธอปล่อยให้แขนที่แข็งแรงคู่นั้นโอบรัดรอบเอวของเธอแน่น พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก แต่ก็ไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่นิด
ดวงตาของเธอเหมือนแอ่งน้ำที่เหือดแห้ง มันแห้งมากจนแทบจะไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่เลย
ชายคนนั้นยังคงพยายามใจดีสู้เสือ “เจน เป็นเด็กดีนะ เข้านอน ฉันจะแสร้งทำเป็นว่าฉันไม่ได้ยินคำที่คุณเพิ่งพูดเมื่อสักครู่ อย่าพูดเรื่องโง่ ๆ แบบนี้อีกต่อไปนะ”
เสียงของชายคนนั้นอ่อนโยนเช่นเคย มันยังเต็มไปด้วยการเอาอกเอาใจเช่นเดียวกับคำเตือนที่ชัดเจนของเขา
“ฉันอยากออกไปจากที่นี่ ... ”
ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค คำพูดของเธอนั้นมันก็ทำให้เขารู้สึกโกรธมาก ๆ
"คุณต้องการออกไปจากสถานที่นี้ หรือจริง ๆ แล้วคุณต้องการไปจากผมกันแน่?"
แขนกำยำของชายคนนั้นโอบรัดแน่นขึ้นและตัวของเขานั้นสั่น ตอนนี้เขาโกรธมาก เขาพยายามที่จะระงับความโกรธของเขาเอาไว้อยู่ภายใน
"อย่าพูดเรื่องโง่ ๆ แบบนี้อีกต่อไปนะ ผมไม่อยากได้ยินคำว่าจากไปอีกแล้ว” เขากัดฟันแน่น เขาเพียงคนเดียวที่รับรู้ถึงความเจ็บปวดภายในของเขา
“เจนคุณฉลาดมาก ฉลาดมาตั้งแต่ยังเด็ก ผมแน่ใจว่าคุณรู้ทางเลือกที่ชาญฉลาดที่คุณควรทำ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวของคุณเอง”
ชายหนุ่มผู้ที่ไม่ทราบว่าทักษะการเจรจาต่อรองในสาขาธุรกิจนั้น มันไม่สามารถใช้ได้เมื่อต้องพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว
ทัศนคติที่แข็งกร้าวของเขาในสาขาธุรกิจนั้น มันเป็นผลมาจากการสนับสนุนด้านเงินทุนที่แข็งแกร่งของเขา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ อย่างไรก็ตามที่นี่ไม่ใช่สนามการแข่งขันในเรื่องของธุรกิจ คำพูดของเขาเมื่อสักครู่ มันไม่ต่างจากการพาตัวเองไปยังนรกเลย
เขาไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดที่เขาต้องการคือทำให้ผู้หญิงคนนี้อยู่กับเขาต่อ
แม้แต่เพื่อนสนิททั้งสองของเขา ก็มีคำใบ้คลุมเครือไม่มากก็น้อยในการเตือนเขา ว่าเขาควรปล่อยเธอไป ถ้าเขาไม่สามารถรั้งเธอให้อยู่กับเขาได้
อย่างไรก็ตาม เขาแทบไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะทิ้งเขาไป เขาทนไม่ได้กับความคิดที่ว่าเขาจะไม่มีเธออยู่ข้าง ๆ อีกต่อไป
เขาลุกลี้ลุกลนทำทุกอย่าง จนแทบจะหมดสิ้นปัญญาแล้ว
เธอคือยาวิเศษของเขา
ผู้หญิงคนนั้นก้มหน้าลง เธอหัวเราะกับตัวเอง…เขามักจะเป็นแบบนี้เสมอ!
เขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงเสน่หา คุณชาย อันตราย
‘ งั้นเขาจะช่วยให้เธอฟื้นคืนความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีที่หายไป -’ โอ๊ย ก็มึงนั่นแหล่ะเป็นคนทำให้เจนตกอยู่ในสภาพแบบนี้...
อ่านแล้วก็อึดอัดแทน อยากให้ความจริงเปิดเผยเร็ว ๆ และเจนสามารถออกไปใช้ชีวิตดี ๆ อยู่ห่าง ๆ จากคนสารเลวพวกนี้ ไม่อยากให้ให้อภัยใครเลย...