จู่ ๆ คาเลนก็ได้ยินเสียงของเจเรมี่ ทันทีที่เธอหันไปมอง เขาก็กลายเป็นเหมือนลมกระโชกแรงที่พัดผ่านเธอไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่งวิ่งเข้าไปถึงตัวลิเลียนในทันที
ลิเลียนสะดุดและกำลังจะล้มลงบนพื้นหินอ่อนขนาดใหญ่ แต่เด็กน้อยกลับตกอยู่ในอ้อมแขนของเจเรมี่แทน
เด็กหญิงตัวน้อยตกตะลึง ในขณะที่ยังงุนงงอยู่เธอก็หมุนตัวและมองไปยังชายที่จับเธอไว้
ดวงตาของเจเรมี่เปล่งประกายด้วยความอบอุ่น ทว่าเจ็บปวด “ไม่เป็นไรใช่ไหม ลิเลียน?”
เขาถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง ขณะที่มือใหญ่ก็จับศีรษะของเด็กหญิงตัวน้อยเอาไว้
เขาเจ็บปวดแสนสาหัสเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เขาไม่สนใจเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองที่ต้องล้มลงกับพื้นต่อหน้าเขา
ลิเลียนมองไปที่เจเรมี่ ทว่าไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากเธอ สีหน้าของเธอไม่เปลี่ยนแปลง และเธอเพียงกะพริบตาเท่านั้น
เจเรมี่รู้ว่านี่เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ลิเลียนรู้สึกไม่ดีต่อเขา
ในสายตาของสาวน้อย คุณสุดหล่อตรงหน้าเธอตอนนี้ไม่หล่ออีกต่อไปแล้ว ความประทับใจที่มีต่อเขาในส่วนลึกของจิตวิญญาณที่ไร้เดียงสาของเธอก็ได้แปรเปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน
เจเรมี่รู้สึกราวกับอกหัก เขามองใบหน้าที่เหมือนตุ๊กตาซึ่งคล้ายคลึงกับเมเดลีนก่อนจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
ขณะที่เขากำลังจะปล่อยมือและวางเด็กน้อยลง ลิเลียนก็อ้าแขนออกแล้วกอดรอบคอเขาแน่น
เจเรมี่ตกตะลึงและประหลาดใจ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเด็กน้อยที่แนบชิดตัวเขาจนทำให้ดวงตาของเขาเปียกปอนไปด้วยน้ำตา
“ลิเลียน”
เขายกมือขึ้นสัมผัสศีรษะของลูกสาวสุดน่ารัก และอยากจะกอดเจ้าหญิงตัวน้อยของเขาไว้ด้วยความรัก เขาอยากจะมอบความรักอันล้นเหลือให้เธอและการปกป้องไปจนเธอโต
แต่เขากลับเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
เจเรมี่อยากจะดื่มด่ำกับความอบอุ่นของเด็กน้อยให้นานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่ลิเลียนสะกิดไหล่เขา
เขาเห็นด้วยแล้วรอยยิ้มบนใบหน้าของแจ็คสันก็กว้างขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม คาเลนที่กำลังดูภาพทั้งหมดจากมุมหนึ่งกลับไม่ได้รู้สึกกระตือรือร้นเหมือนเมื่อก่อน เธอมองไปที่เจเรมี่และพูดอย่างเย็นชา “แกยังจำได้อยู่เหรอว่าต้องกลับมาดูลูก ๆ น่ะ ฮะ? เมื่อวานนี้เพื่อผู้หญิงเห็นแก่ตัวคนนั้นที่ทำลายครอบครัวของแก แกถึงกับผลักเอวลีนต่อหน้าลูก ๆ ของตัวเอง แกลืมไปแล้วเหรอว่าผู้หญิงที่แกผลักไส ก็คือผู้หญิงที่แกขอร้องและอ้อนวอนให้เธอกลับมาอยู่เคียงข้างน่ะ?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เจเรมี่ได้ยินคาเลนดุด่าและสั่งสอนเขา
ทว่านี่ก็เป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าในฐานะลูกสะใภ้แล้ว เอวลีนได้ครอบครองพื้นที่บางส่วนในหัวใจของคาเลนไปแล้ว
คาเลนโกรธจัดในขณะเดียวกันเธอก็เห็นเจเรมี่หัวเราะเบา ๆ หลังจากที่เธอดุเขาไป
“เจเรมี่ ลูกเป็นอะไรไป? การที่ลูกปฏิบัติต่อเอวลีนแบบนั้น อย่าบอกนะว่าลูกไม่สนใจเธอแล้วจริง ๆ ? คุณปู่ของลูกบอกว่าในตอนแรก ลูกทำเหมือนไม่สนใจเอวลีน แต่ก็ขอร้องให้ท่านจัดพิธีแต่งงานระหว่างลูกกับเอวลีนให้ ลูกรักเธอมาก แต่ทำไมลูกยังอยากไปอยู่กับลาน่ากันล่ะ? แล้วลูกยังทำเธอท้องด้วยเหรอ?”
เจเรมี่ยังคงเงียบ เมื่อเผชิญกับการสอบถามของคาเลน
เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพลางจ้องมองทารกน้อยที่กำลังขยับแขนขา เขาลุกขึ้นก่อนจะพูดว่า “ผมขออุ้มเขาได้ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...