“เจเรมี่ ฉันคิดถึงคุณ ฉันคิดถึงคุณมากเหลือเกิน…”
เมเดลีนจับมือที่สั่นเทาของตัวเองและพยายามระงับความเศร้าเอาไว้
ในขณะเดียวกันนั้นเองที่เอวาโทรหาเธอ ด้วยเหตุนั้นเธอจึงสงบสติอารมณ์และรับสายทันที
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เอวาส่งเสียงเศร้า “แมดดี้ฉันควรทำยังไงดี? แดนบอกว่าแม่ของเขาอยากจะชวนฉันไปที่บ้าน”
เมเดลีนได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงงานวันเกิดอายุ 80 ปีของผู้อาวุโสแห่งตระกูลเกรแฮม และรู้ดีว่าเอวารู้สึกอย่างไรในตอนนี้
มันเหมือนกับตอนที่คนในตระกูลวิทแมนทำกับเมเดลีนในตอนนั้น
แต่มีสอ่งที่แตกต่างกันเพียงอย่างเดียว คือแดเนียลเข้าข้างเอวา
ส่วนเจเรมี่ในตอนนั้นเขาไม่สนใจเมเดลีนด้วยซ้ำ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เมเดลีนก็ยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้อย่างชัดเจน
แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับยอมให้เขาปฏิบัติต่อเธออย่างเย็นชามากกว่าที่จะทิ้งเธอไปตลอดกาล
“แมดดี้ เธอคิดว่าฉันควรไปไหม?”
คำถามที่สับสนและขัดแย้งของเอวาดึงความคิดที่ล่องลอยของเมเดลีนให้กลับมา
“เอวา เธอต้องไป” เมเดลีนให้คำตอบที่ชัดเจน “ในเมื่อคนในครอบครัวเกรแฮมชวนเธอไป แสดงว่าแดนต้องทำอะไรเพื่อเธอแน่ ๆ
“เอวา ถ้าเธอต้องการสานต่อความสัมพันธ์กับแดน เธอก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ถ้าเธอไม่ไป แดนคงจะเสียใจมาก”
หลังจากฟังคำอธิบายของเมเดลีนแล้ว เอวาก็พยักหน้าเห็นด้วย
“แมดดี้ ฉันมีความสุขมากนะที่มีเธออยู่เคียงข้าง”
เมเดลีนรู้สึกดีขึ้นมาก หลังจากที่ได้ยินน้ำเสียงของเอวาซึ่งเปลี่ยนจากเศร้าหมองไปเป็นน้ำเสียงที่มีความสุขมากขึ้น
บางทีเธออาจต้องอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่มีความสุขให้มากขึ้น เพื่อที่เธอจะได้หยุดคิดมากและจมลึกลงไปในความเจ็บปวดจากการสูญเสียเจเรมี่ได้บ้าง
แต่มาดามเกรแฮมกลับมองดูของขวัญอย่างดูถูกเหยียดหยาม พลางพูดเยาะเย้ยว่า “ไม่ต้องก็ได้นะคุณลองค์ เพราะยังไงของขวัญชิ้นนี้ก็ซื้อด้วยเงินแดน สุดท้ายมันก็เป็นเงินของเราอยู่ดี”
ทัศนคติของอีกฝ่ายที่มีต่อเอวานั้นชัดเจนทีเดียว
พวกเขาไม่ได้เชิญเอวามาที่นี่ในฐานะแขก และในทางกลับกันพวกเขาแค่เชิญเธอเพื่อมาหาเรื่องก็เท่านั้น
แดเนียลขมวดคิ้ว เขาอยากจะพูดแทนเอวา แต่เธอห้ามเขาไว้พลางยิ้มอย่างมีเมตตาแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันซื้อสิ่งนี้ด้วยเงินของฉันเองค่ะ”
เมื่อได้ฟังอย่างนั้น คนฟังก็ยิ่งหัวเราะเยาะ “ถึงคุณซื้อสิ่งนี้ด้วยเงินของคุณเอง ฉันก็รับไว้ไม่ได้หรอก คุณควรรู้ตัวนะว่าคุณทำเงินได้เท่าไหร่ต่อเดือน แล้วคุณก็ควรจะเก็บเงินนั่นไว้ซื้อของปลอมให้ตัวเองมากกว่านะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นนาญ่าก็ยิ้มมุมปาก จากนั้นก็แสร้งพูดอย่างจริงใจว่า “มาดามเกรแฮมคะ เธอให้ด้วยใจก็พอแล้วค่ะ มาดามน่าจะรับไว้นะคะ ลองดูสิคะ บางทีมาดามอาจจะชอบก็ได้”
ในตอนแรกแม่ของแดเนียลดูจะไม่พอใจนัก แต่หลังจากนาญ่าพูดเช่นนั้น เธอก็ดูเต็มใจจะทำตามขึ้นมา มาดามเกรแฮมหยิบกล่องขึ้นมาและเปิดมัน
ทว่าในทันทีที่เธอเปิดกล่องออกและเห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ใบหน้าของเธอก็บูดบึ้ง ในขณะที่สีหน้าของนาญ่าก็เปลี่ยนไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...