เมื่อใกล้จะเช้า เจเรมี่ก็ได้ยินเสียงความวุ่นวายดังมาจากข้างนอก เขาจึงออกมาบอกให้คาเลนช่วยดูแลเมเดลีนไว้เผื่อเธอตื่นขึ้นมา
คาเลนงง แต่ก็พยักหน้ารับ และในตอนที่เธออยากจะถามเหตุผล เจเรมี่ก็กลับเข้าไปในห้องแล้ว
ในขณะที่เมเดลีนยังคงหลับอยู่นั้น เจเรมี่ก็สามารถหลับตางีบได้บ้าง
แต่หลังจากที่หลับไปได้ไม่นานเขาก็เริ่มฝันร้าย เขาฝันว่าเมเดลีนจะหนีเขาไปอีก ซึ่งสร้างความกระวนกระวายใจให้กับเขาไม่น้อย
ทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจตื่น และเห็นว่าเตียงอีกฝั่งว่างเปล่า
“ลินนี่”
เจเรมี่ลุกจากเตียงและรีบออกจากห้องไป ขณะที่จะลงไปตามหาเมเดลีนที่ชั้นล่าง เขาก็เห็นเธอกำลังคุยกับลูก ๆ ทั้งสองอยู่ที่โถงชั้นล่างเสียก่อน สิ่งนี้ทำให้หัวใจที่กระวนกระวายนั้นสงบลงในทันที
เขาเดินกลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำและแต่งตัวให้เรียบร้อย จากนั้นก็รีบลงมาหาเมเดลีน เขาต้องการคอยอยู่ข้าง ๆ เพื่อปกป้องและดูแลเธอ
“ลินนี่” เขาเรียก
เมเดลีนที่กำลังดูการวาดภาพของลิเลียนเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าเป็นเจเรมี่เธอก็คลี่ยิ้มจาง ๆ
“ตื่นแล้วเหรอคะ เจเรมี่”
เจเรมี่ประหลาดใจ “คุณจำผมได้แล้วใช่ไหม ลินนี่?”
เมเดลีนยิ้มและมองมาที่เขา “คุณจะพาฉันไปพบนักจิตวิทยาใช่ไหมคะ? ฉันพร้อมแล้วค่ะ หลังจากที่คุณทานอะไรเสร็จเราก็ไปกันเถอะ”
“...” เจเรมี่ตะลึงอีกครั้ง
‘เมเดลีนเป็นฝ่ายที่พูดเรื่องไปพบนักจิตวิทยาก่อน
‘เธอรู้ว่าตัวเองกำลังป่วยงั้นเหรอ?’
เจเรมี่ทานอาหารเช้าง่าย ๆ ก่อนจะพาเมเดลีนไปพบนักจิตวิทยา
เขาไม่คิดว่าเมเดลีนจะให้ความร่วมมือและยอมรับการรักษาแต่โดยดี ซึ่งนักจิตวิทยาก็ยังชี้แจงอีกว่าทัศนคติเชิงบวกแบบนี้จะช่วยทำให้เมเดลีนฟื้นตัวได้ดีมากขึ้น
คำตอบนั้นทำให้เจเรมี่มีความมั่นใจมากขึ้น
เจเรมี่รู้สึกบีบคั้นหัวใจ แต่ก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ ไปเดทกัน”
เมเดลีนยิ้มอย่างสดใส ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
เจเรมี่พาเมเดลีนไปที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ เพื่อซื้อของ แต่ก่อนที่จะกลับออกไปเมเดลีนก็ชี้ไปที่ร้านหนังสือ “เด็กคนที่ชื่อแจ็คบอกว่าเขาอยากอ่านหนังสือเรื่องนี้ ฉันอยากซื้อให้เขา”
เจเรมี่ได้ฟังดังนั้นจึงจับมือเธอเดินเข้าไปในร้านหนังสือ
เมื่อกำลังมองหาหนังสือ เจเรมี่ก็สนใจหนังสือเกี่ยวกับการบำบัดรักษาทางจิต เขาหยิบมันขึ้นมาดูแล้วเงยหน้าขึ้นมองเมเดลีนที่กำลังมองหาหนังสืออยู่ไม่ไกล พลางสังเกตอาการของเธอเป็นครั้งคราว
เมเดลีนมองหาหนังสือให้แจ็คอย่างจริงจัง หลังจากวนรอบชั้นหนังสือที่อยู่ใกล้เจเรมี่ไปสองรอบ ในที่สุดเธอก็เจอหนังสือที่แจ็คสันต้องการ มันถูกวางไว้ที่จุดสูงสุดบนชั้นหนังสือ
แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตัวเตี้ยขนาดนั้น แต่ก็เป็นเรื่องยากที่เธอจะเอื้อมหยิบหนังสือเล่มนั้นได้
ในไม่นานเธอก็นึกถึงเจเรมี่ เมเดลีนไม่รอช้าที่จะเรียกเขา ทว่าทันทีที่กำลังจะหันหลังไปเธอก็รู้สึกว่ามีเงาสูงใหญ่ยืนอยู่ข้างหลัง ในวินาทีถัดมาเสียงที่เอ่ยขึ้นก็ทำให้เธอตกใจราวกับฝันร้ายที่ดังกึกก้องอยู่ในหู
“นี่คือหนังสือที่คุณอยากได้เหรอ? เดี๋ยวผมช่วยหยิบให้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...