เช่นนั้นเองในที่สุดความจริงก่อนหน้าได้ถูกเปิดเผยคงต้องขอบคุณเสียงโหยหวนของแทนเนอร์
ใบหน้าของเจเรมี่เปลี่ยนเป็นความน่าสะพรึงกลัวทันทีขณะที่ความกระหายเลือดที่ไม่ควบคุมไม่ได้พุ่งเข้ามาในดวงตาเขา
ด้วยความโกรธ เขาชูกำปั้นชกหน้าของแทนเนอร์อย่างแรง
แทนเนอร์สะดุดไปข้างหลัง ขณะที่ไม่สามารถทรงตัวให้ยืนอยู่ได้ จิตใจของเขางุนงงกับการถูกต่อย
แก้วไวน์และจานพังไปทั่วพื้นเมื่อเขากระแทกเข้ากับโต๊ะยาวด้านหลัง
แต่อย่างไรนั้น เจเรมี่ไม่หยุดแค่นั้น แต่เขาดึงแทนเนอร์ขึ้นมาและต่อยลงไปอีกสองครั้ง
เลือดไหลออกมาจากมุมริมฝีปากของแทนเนอร์ขณะนี้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
ไม่มีใครกล้าหยุดเจเรมี่ในตอนนี้
ชายคนนั้นดูน่ากลัวมากในขณะนั้นและเขาน่ากลัวเกินไป ทุกคนรู้สึกว่าการเข้าใกล้เกินไปจะทำให้พวกเขามอดไหม้ด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธที่กลืนกินเขา
เจเรมี่เอาแต่คิดว่าเขาคิดผิดตลอดสามปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะในประเด็นของความบริสุทธิ์ของมาเดลีน เขาไม่สามารถขจัดความรู้สึกของการถูกปิดตาได้
ตอนนี้ในที่สุดเขาถอดผ้าคลุมที่ปิดตาออก ในแง่ของความจริง เขาพบว่ามันยากที่จะเผชิญหน้ากับหัวใจของเขาเอง นับประสาอะไรกับใบหน้าที่เวียนว่ายอยู่ในความคิดของเขา ...
เมื่อเห็นฉากที่คลี่คลายคดี มุมปากแห่งความสวยงามของมาเดลีนถูกยกขึ้นมาเล็กน้อย
สุดท้ายแล้ว
ในที่สุด เธอก็ได้ยินแทนเนอร์เปิดเผยความจริงเบื้องหลังของการใส่ร้ายป้ายสีเธอ
สุดท้าย เธอก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
มาเดลีนรู้สึกว่าบาดแผลในใจลดความเจ็บลงเล็กน้อย
บอดี้การ์ดรีบหันไปจับแทนเนอร์ที่ล้มพับไปกับพื้น และถีบเขาออกไปจากประตูโรงแรมทันที
แทนเนอร์อาจถูกโยนออกไป แต่ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงได้ยินคำพูดที่เขาพูดอย่างชัดเจน
“มัน…มันเป็นแค่การทะเลาะวิวาทเล็ก ๆ ได้โปรด ทุกคน ตอนนี้มันจบแล้ว ขอให้มีความสุขตลอดทั้งคืน” เมเรดิธฝืนยิ้มขณะที่เธอพยายามจะคืนบรรยากาศยามค่ำคืนให้เป็นปกติ จากนั้นเธอหันไปหาเจเรมี่หลังจากสร้างสีหน้าที่เจ็บปวดรู้สึกแย่กับเรื่องนี้แล้ว “เจเรมี่ โปรดอย่าเชื่อคำที่ แทนเนอร์พูด…”
“ฉันรู้แต่แรกแล้ว มาเดลีนจะไม่ทำสิ่งนี้!” อาวุโสวิทแมนขัดคำแก้ตัวของเมเรดิธด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองของเขา “ทุกสิ่งทุกอย่างเธอคือคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด! เธอเป็นคนเดียวที่ร่วมมือกับอันธพาลคนนั้นเพื่อใส่ร้ายมาเดลีน นี่เธอลักพาตัวลูกชายของตัวเองเพื่อทำร้ายหล่อนได้ไงกัน? เธอ เธอ ... ฉันไม่อยากจะเชื่อ!”
เมเรดิธส่ายหัวน้ำตาปริ่ม “นั่นไม่เป็นความจริงนะคะ คุณปู่วิทแมน ท่านไม่สามารถตัดสินฉันจากคำพูดของอันธพาลฝั่งเดียว ฉันจะลักพาตัวแจ็คได้ไง? เขาเป็นลูกของฉันนะ! ฉันจะมีจิตใจแบบนั้นได้ไงกัน?”
“ใช่ ลูกสาวของฉันจะไม่มีวันทำแบบนี้ อาวุโสวิทแมน เราจะเชื่อคำพูดของอันธพาลไม่ได้เด็ดขาด” การแสดงออกของเอโลอิสนั้นดุร้าย อารมณ์ของเธอสงบกว่าของเมเรดิธมาก
นั่นเป็นเพราะเธอเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าลูกสาวที่มีค่าของเธอจะไม่มีวันทำแบบนี้
“ฮึ่ม!” อาวุโสวิทแมนพูดอย่างเย็นชา เขาไม่เชื่อคำที่เธอพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...