หลังจากที่บังเอิญได้ยินเรื่องราวเกือบทั้งหมดท่าทีดั่งเดิมของเจเรมี่ก็เปลี่ยนไป
เขาย่างกายเข้าใกล้เพื่อไขข้อสงสัยสายตาอันเฉียบคมกำลังหยุดจ้องจากด้านหลังที่มองเห็นเมเรดิธกำลังเอาหลังพิงผู้ชายคนหนึ่ง เขาคือหมอรักษาอาการของมาเดลีน เมเรดิธกำลังคุยกับเขา
“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ฉันคิดไม่ถึวว่าแมดดี้ จะทำอะไรแบบนั้น…” ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเมเรดิธ ถอนหายใจ
เจเรมี่ ไม่เข้าใจเรื่องที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างเเจ่มแจ้ง เขาเดินไปข้างหน้าเพื่อจะถามถึงเรื่องราวทั้งหมด หมอก็ขมวดคิ้วและพูดอย่างเชื่องช้า “เฮ้อ! มันผิดจริยธรรมทางการแพทย์ของฉันที่จะโกหก แต่น้องสาวของคุณมีบางอย่าง จริง ๆ แล้ว เธอไม่ได้ท้อง แต่เธอยืนยันที่จะแสร้งทำเป็นท้อง แถมเธอยังใช้เลือดปลอมเพื่อหลอกว่าทารกได้รับผลกระทบ เมื่อเราตรวจพบเธอขู่ว่าจะฆ่าตัวตายและบังคับให้เราร่วมมือกับเธอ พวกเราไม่มีคำพูด ใดๆ!”
ใบหน้าของเจเรมี่ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งทันทีหลังจากที่เขาได้ยินเรื่องนี้
เธอแกล้ง?
มาเดลีน เสแสร้งว่าท้อง? เลือดของเธอยังเป็นของปลอม?
“ฉันเข้าใจดีทำไม แมดดี้ ถึงทำแบบนั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะถึงขั้นขู่ฆ่าตัวตายและบังคับให้พวกคุณร่วมมือกันโกหกสามีของเธอ ทำไม่เป็นคนที่เอาแต่ใจแบบนี้กัน!”
“ฉันคิดว่าฉันจะไปคุยกับน้องสาวคุณ วันหนึ่งสามีของเธอจะต้องรับรู้ถึงการตั้งครรภ์ปลอมของเธอ” หมอหันกลับไปหลังจากคุยกับเธอ
เมเรดิธ รีบวิ่งไล่ขึ้นไปหาเขา “ หมออย่าบอกเรื่องนี้กับใครโดยเฉพาะสามีของน้องสาวฉัน ฉันกลัวว่าเขาอาจฆ่าเธอถ้าเขารู้”
หมอถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “คุณควรจัดการดูแลในส่วนนั้นด้วยตัวคุณเอง ในท้ายที่สุดแล้วไม่มีอะไรผิดปกติกับ มาเดลีน เธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ตลอดเวลา”
“ขอบคุณมากค่ะ คุณหมอ! ขอบคุณมาก คุณหมอ!”
เมเรดิธ ขอบคุณหมอในขณะที่เขาเดินจากไป
เมื่อคุณหมอเดินจากไป เมเรดิธได้แต่ถอนหายใจพร้อมคิ้วที่ถูกขมวดลึกลง
“แมดดี้เธอทำมันเกินไปแล้ว ฉันให้อภัยเธอได้ที่แกล้งฉันและโกหกเจเรมี่ว่าคุณเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเธอกล้าโกหกได้อย่างไรว่ากำลังตั้งครรภ์? เฮ้อ!”
เมเรดิธ ถอนหายใจและหันกลับมา เธอเงยหน้าขึ้นและเห็น เจเรมี่ ในระยะไกล ดังนั้นเธอจึงแสดงสีหน้าตกใจ
เธอมองไปที่ เจเรมี่ อย่างกล้า ๆ กลัวๆ “ เจ - เจเรมี่คุณมาที่นี่เมื่อไหร่”
เจเรมี่จ้องมองการกระทำของเมเรดิธที่มีอาการประหม่าจนถูมือเข้าด้วยกัน เขาระงับความโกรธของเขา “คุณรู้ถึงแผนการนั้นตั้งแต่เเรกแต่คุณยังพยายามโกหกเพื่อเธอ งั้นหรอกเหรอ! ”
เมเรดิธ อ้ำอึ้งไปสองสามวินาที เมื่อได้ยินคำพูดของเจเรมี่ เธอมองเขาด้วยความงงงวยบนใบหน้าที่แสดงออกมาของเธอ "เจเรมี่ คุณกำลังพูดถึงอะไร? ใคร? ฉันช่วยใคร คุณคงได้เข้าใจอะไรผิดแน่ ๆ ”
ดูท่าเมเรดิธ จะไม่ยอมบอกความจริงเมื่อเขาเห็นดังนั้น คิ้วคู่งามถูกขมวดอย่างขึงขัง “ฉันได้ยินทั้งหมดที่เธอพูดกับหมอ ยังอยากโกหกฉันอีกเหรอ”
เมเรดิธส่ายหัวสายตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงระรื่อบ่งบอกถึงความเสียใจ “ เจเรมี่ฉันไม่ได้โกหกคุณ ฉันจะโกหกคุณทำไมกัน”
“ยังจะไม่ยอมบอกความจริงกับฉันอีกหรือ”
“เจเรมี่…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...