“คุณแม่คะ คุณแม่ต้องเชื่อหนูนะ วิดีโอนั้นไม่ใช่ของจริงเลยสักนิด!” เมเรดิธมองผู้เป็นแม่ของเจเรมี่หลังจากที่เธอพูด “คุณนายวิทแมน คุณควรทราบว่ามาเดลีนเป็นคนแบบไหนกัน ทำไมฉันถึงอยากทำร้ายเธอ? เธอไม่ใช่คนที่มีศีลธรรมเลยสักนิด!”
“เมอร์อย่าร้องไห้เลยลูก แม่เชื่อหนู” เอโลอิสเลือกที่จะเชื่อเมเรดิธโดยไม่ลังเลใจอีกครัง จากนั้นเธอมองไปที่มาเดลีนและเฟลิเป้ด้วยสายตาเเห่งความเกลียดชัง “เฟลิเป้ นายกล่าวหาลูกสาวของฉันต่อหน้าสาธารณชนแบบไม่ถูกต้องเพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ ฉันจะไม่ปล่อยนายไปง่าย ๆ แน่นอน!”
“ลูกสาวของคุณ?” เฟลิเป้ตะคอก “เพียงเเค่เธอเป็นลูกสาวของคุณ คุณก็เต็มใจที่จะทำเมินแม้ว่าเธอจะทำอะไรที่เลวร้ายขนาดนั้นก็ตามงั้นหรอ?”
“นาย…”
“คุณเองก็เห็นมันในวิดีโออย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะรู้ว่ามันเป็นของปลอมหากมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมเรดิธ ที่เธอบอกว่าวิดีโอนี้ถูกถ่ายเมื่อไม่นานมานี้ ผมขอถามหน่อยนะว่า แม้ว่า วีล่าจะแอบอ้างเป็นมาเดลีนได้ในวิดีโอ แล้วผู้หญิงคนนั้นที่ดูเหมือนคุณใครแน่? นอกจากนี้ ใครยังแอบอ้างเป็นแขกรับเชิญเหล่านั้นอีกและแม่ของเจเรมี่อีกด้วย?”
“...” เมเรดิธแยกริมฝีปากของเธอและไม่พูดอะไรเมื่อต้องสบกับคำถามของเฟลิเป้
เธอไม่เจอข้อแก้ตัวใด ๆ ที่จะทำให้คนที่นี่เปลี่ยนความคิดไปในทางที่เธอต้องการได้
เหตุผลก็คือเฟลิเป้พูดความจริง
“พอ!” เอโลอิสจ้องเขม่งไปที่เฟลิเป้ “มาเดลีนขโมยแฟนของเมอร์มาและอีกทั้งยังทำร้ายเธอนับครั้งไม่ถ้วน หล่อนสมควรได้รับกรรมสิ่งที่เกิดขึ้นกับหล่อนแล้ว มันไม่มีอะไรที่จะต้องมากล่าวโทษลูกสาวฉัน! หล่อนสมควรถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ ใครบอกให้หล่อนเป็นคนไม่ดีเองล่ะ?”
“ถ้าเช่นนั้นฉันขอเดาว่าความจริงไม่มีความสำคัญอะไรเลยสำหรับคุณ คุณนายมอนต์โกเมอรี สินะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทุกสิ่งที่ลูกสาวของคุณทำนั้นถูกต้องและสมเหตุสมใช่ไหม?” เสียงไพเราะของมาเดลีนดังขึ้น
เอโลอิสมองเธอด้วยความดูถูก “มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?”
“มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉันเลย ฉันก็แค่สงสารมาเดลีน เธอตายไปแล้วและยังต้องแบกรับภาระข้อกล่าวหาของการเป็นผู้ร้ายเช่นนี้” มาเดลีนรู้สึกเสียใจขณะที่เธอมองตรงไปที่เอโลอิส
“คุณนายมอนต์โกเมอรี คุณปกป้องลูกสาวของคุณมากเกินไป แต่คุณเองเคยคิดบ้างไหมว่ามาเดลีนเองก็มีพ่อมีแม่เช่นกัน? หากพ่อแม่ของเธอต้องเจอกับความคับแค้นใจที่เธอต้องทนทุกข์ พวกเขาจะเสียใจขนาดไหนกัน? หรือบางที คุณนายมอนต์โกเมอรีเอง คุณก็สามารถสวมบทบาทของพวกเขาได้ถ้ามาเดลีนเป็นลูกสาวของคุณ —”
“ฉันไม่มีลูกสาวที่ไร้ยางอายเช่นนั้น!”
คำพูดของเอโลอิสให้ความรู้สึกเหมือนมีดแหลมคมนับพันเล่มเข้าเฉือนหัวใจของมาเดลีนในคราเดียว
มันคงจะเป็นเพียงเรื่องโกหกหากเธอบอกว่าเธอไม่สนใจในคำพูดนั้น
หัวใจของเธอยังคงปวดร้าว
“เมอร์ แม่จะคอยอยู่ข้างลูกเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าไปสนใจคนพวกนี้ กลับกันเถอะ!”
เอโลอิสทำหน้าบึ้งใส่มาเดลีนอย่างรังเกียจและเธอกำลังจับมือเมเรดิธเพื่อพาเธอเดินออกไป
มาเดลีนเม้มริมฝีปากของเธอเเเน่นในความรู้สึกที่ถูกทำลายล้าง เธอรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่เริ่มเสียดแทงที่มุมตาของเธอ
เมื่อคู่แม่ลูกที่น่ารักกำลังจะเดินออกจากฝูงชนไป พวกเขาหยุดเดินอย่างกะทันหันในทันที
“เจ - เจเรมี่?” เมเรดิธเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอจ้องมองชายที่ดูเหมือนปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางฝูงชนมากมายจากที่ใดที่หนึ่ง เธอพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “เจเรมี่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่? คุ- คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เจเรมี่ไม่ตอบเธอทันที ในทางกลับกัน เขากลับเดินตรงไปหามาเดลีนแทน
ท่าทางของเขาสง่างาม และเขาดูเหมือนผู้ปกครองอย่างเผด็จการ มีแสงเย็น ๆ บนใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกอันหล่อเหลาปรากฏอยู่เสมอ
มาเดลีนยืนอยู่ในจุดที่สง่างาม แต่ในความเป็นจริง ทว่า เธอกำลังรู้สึกเสียอาการเมื่อเธอเฝ้าดูชายคนนั้นค่อย ๆ ที่เดินเข้ามาหาเธอ
สายตาของเจเรมี่จ้องเธอ มีวังวนในดวงตาที่หรี่แคบของเขา และมันทำให้รู้สึกราวกับว่าเธอจะถูกดูดเข้าไปในนั้นหากเธอมองเขานานเกินกว่าสองถึงสามวินาที
เมเรดิธรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดไป เธอปล่อยมือของเอโลอิสและวิ่งไปหาเจเรมี่ เธอจับแขนเขาไว้โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“เจเรมี่ ให้ฉันได้อธิบายก่อน—”
เจเรมี่ชะงัก “คุณไม่ต้องอธิบายอะไร”
“เจเรมี่…”
“มันเป็นเรื่องยากมากที่จะมีคนจากชนชั้นสูงและสื่อมวลชนทั่วสารทิศมารวมอยู่ห้องเดียวกันได้ ผมต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อประกาศอะไรบางอย่าง” เขากล่าวขณะที่สายตาของเขายังไม่ละไปจากมาเดลีน เขามีการแสดงออกที่แปลก ๆ ทางสายตา
“คุณวีล่า คุณไม่รังเกียจที่ผมจะพูดอะไรสักสองสามคำในงานของคุณ ใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ