เขาเอ่ยถาม เธอด้วยใจที่เจ็บปวดของตัวเอง
เมื่อเขาย้อนนึกไปในวันที่เห็นสีหน้าทำอะไรไม่ถูกของมาเดลีนตอนที่เธอพยายามอธิบายตัวเองไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบาปที่ไม่อาจไถ่ถอนอะไรได้เลย
นี่เขาใจร้ายทำร้ายผู้หญิงที่รักเขามากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
และในตอนที่เขารู้ว่าตัวเองตกหลุมรักเธอนั้นเมื่อมันสายเกินไปแล้วใช่ไหม?
ตอนนี้ สุดท้ายเเล้วเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมอาวุโสวิทแมนของตัวเองถามเธอแบบนั้นตอนที่เธอบอกว่าเธอต้องการจะหย่ากับเขา
คุณปู่ของเขาถามเธอว่าพวกเขานอนด้วยกันอีกไหมหลังแต่งงาน
แน่นอนว่า เขาทำ และหลายครั้งด้วย
แม้เขาบอกจะบอกว่าเขารังเกียจเธอมากแค่ไหน แต่เขาก็อดไม่ได้ที่สัมผัสเธอแบบนั้น
สรุปแล้วมันกลับกลายเป็นว่าเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ แต่เมื่อเขารู้ตัวตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว
เจเรมี่รวบรัดความคิดของตัวเองมองไปทางหลุมฝังศพ “ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนเธอมากเลยนะ เพราะงั้นฉันจึงมีเข้าใจผิดอยู่บ่อย ๆ เมื่อคืนฉันเผลอกอดหล่อนไป แต่ฉันหวังว่าหล่อนจะเป็นเธอจริง ๆ นะ”
น้ำเสียงของเขาท่วมไปด้วยอารมณ์และความอ่อนโยนที่เอ่อล้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จากนั้นเขาได้หลับตาลง
“ฉันหวังแบบนั้นจริง ๆ ว่าหล่อนจะเป็นเธอ…”
เจเรมี่หันหลังเดินกลับจากนั้นไม่นาน ร่างกายของเขาทิ้งร่องรอยแห่งความเงียบเหงาไว้กับแสงแดดยามเช้า
…
มาเดลีนเดินออกจากโรงเรียนอนุบาลและเธอได้กลับไปที่ร้านของตัวเอง
และเวลานั้นมันยังเช้าอยู่ มันยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการดี กระนั้น เธอเห็นผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ที่หน้าร้านแม้แต่สื่อมวลชนก็พากันมาที่นี่ด้วยเช่นกัน
เธอคิดว่านี่อาจเป็นผลลัพธ์ของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอเดินเข้าไปทางประตูหลังของร้าน ในขณะที่เธอนั่งลง การแจ้งเตือนเกี่ยวกับทวีตเตอร์ที่กำลังมาแรงปรากฏขึ้นบนมือถือ
เธอกดเข้าไปดูเนื้อหาข้างในและเห็นวิดีโอที่เฟลิเป้เล่นงานเมเรดิธเมื่อคืนนี้ถูกคนอื่นกระจายข่าวไปอย่างดุเดือด
ทุกคนไปที่บัญชีของเมเรดิธและเขียนด่าเธอมากมาย
เธอเป็นหญิงสาวผู้ดีจากตระกูลมอนต์โกเมอรี แต่นี่เธอไปไกลถึงขั้นทำอะไรที่น่ารังเกียจแบบนี้ มันช่างเป็นอดีตอันมืดมนและไม่อาจเรียกชื่อเสียงคืนได้!
บางคนเริ่มรู้สึกแย่กับสิ่งที่ตัวเองทำก่อนหน้านี้ในกรณีของมาเดลีนด้วยซ้ำไป เธอถูกกล่าวหาแบบผิด ๆ และต้องถูกบังคับให้ต้องทนยอมรับไปอย่าางเงียบ ๆ นอกจากนี้ เธอยังถูกรังแกจากเกรียนคีย์บอร์ดในบางครั้ง ตอนนี้น่าเศร้ามากที่เธอตายไปแล้ว
แม้ว่าความยุติธรรมจะมาถึงช้าเกินไป แต่อย่างน้อยมันก็ยังสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอได้
มาเดลีนกำลังอ่านความคิดเห็นที่ผู้คนได้เขียน เธอรู้สึกขัดแย้งบ้าง แต่ในขณะเดียวกันเธอกลับรู้สึกยินดีไปในเวลาเดียวกัน
“เมเรดิธ อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้สิ เธอมีอะไรอีกมากมายที่จะต้องผ่านไปให้ได้ในอนาคตเชียวนะ”
เธองอริมฝีปากของเธอเป็นรอยยิ้มก่อนกดเข้าไปที่ภาพเซลฟี่ของเมเรดิธที่เธอโพสต์ไว้ในทวิตเตอร์ เธอพยายามโอ้อวดความมั่งคั่งอย่างสุดความสามารถในรูปภาพนั้น
“คุณนายมอนต์โกเมอรี? เมเรดิธ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเธอจะยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ได้นานแค่ไหนกันเชียว”
หลังจากที่เธอพูดจบ สายตาเธอก็สบกับรูปถ่ายครอบครัวในอัลบั้มของเมเรดิธ
เมเรดิธนั่งอยู่ระหว่างเอโลอิสและฌอน แสดงออกซึ่งความรักและความใส่ใจออกมาสายตาของพวกเขา พวกเขายกเมเรดิธว่าเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยคนเดียวของพวกเขาอย่างแท้จริง
เธออดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วลูบไล้สองสามีภรรยาในภาพ ใบหน้าของพวกเขาดูมีเมตตาและใจดี แต่น่าเสียดายนัก …
มาเดลีนนึกได้ถึงแต่ความเกลียดชังที่มีในดวงตาของเอโลอิสและฌอนตอนที่พวกเขามองมายังเธอ นอกจากนี้ เธอยังนึกขึ้นมาได้ถึงความไม่พอใจที่เธอมีให้จากพวกเขาก็คงเป็นตอนที่พวกเขาตบหน้าเธออย่างแรงครั้งนั้น
และนี่เวลามันก็ผ่านมานานมากแล้ว แต่เธอยังคงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ที่หลงเหลือที่หน้าของตัวเอง หัวใจของเธอปวดร้าวมากกว่าเดิมอีกในตอนนี้ …
ณ ตอนนี้เอง เธอได้ยินเสียงวุ่นวายที่ดังมาจากด้านนอกร้าน เธอก้มดูเวลาที่ข้อมือและพบว่านี่เป็นที่จะต้องเปิดร้านแล้ว พนักงานบางคนมาประจำตำแหน่งแล้วและทันทีที่เปิดประตูหน้าร้าน นั่นคือตอนที่คนกระจุกกันอยู่ข้างนอกพากันทะลักเข้ามาในร้าน
มาเดลีนจัดระเบียบตัวเองและเดินออกไปพร้อมกับเชิดหน้าของตัวเองขึ้นอย่างมั่นใจ
เมื่อเธอเดินออกมา คนที่ถูกเรียกว่าลูกค้าต่างก็พากันจ้องมาที่เธอ
“โอ้พระเจ้า เธอดูเหมือนภรรยาเก่าของคุณวิทแมนมากจริง ๆ ด้วย!”
“พวกเขาเหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว!”
“ไม่มีทาง ฉันไม่คิดว่าพวกเขาเหมือนกันหรอกนะ นิสัยใจคอของทั้งสองแตกต่างกันอย่างฟ้ากับเหว!”
“ใช่ล่ะ มาเดลีน เหมือนคนบ้านนอกคอกนาไม่มีปากไม่มีเสียง และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงยอมให้ใครก็ตามรังแกเธอได้ แต่นี่…”
มาเดลีนที่พวกเขาเห็นอยู่ตรงหน้าพวกเขามีรูปร่างที่น่าทึ่ง เธอดูงดงามและดูดีมากกว่าใคร
นอกเหนือจากใบหน้าที่เหมือนกันเแล้ว ทุกคนคิดว่าพวกเขาเป็นคนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และเมื่อทุกคนได้ข้อสรุป ได้มีใครบางคนโผล่ออกมาจากฝูงชนวิ่งตรงเข้ามาหยุดที่หน้าเธอ “แมดดี้!”
มาเดลีนถึงกับผงะเมื่อเอวาปรากฏตัวอย่างกะทันหัน แต่แล้ว เธอเผยรอยยิ้มสงบบนใบหน้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว “เป็นคุณนั่นเอง ฉันบอกคุณแล้วว่า ฉันไม่ใช่มาเดลีน …”
“เธอใช่!” เอวามองเธอด้วยความมั่นใจ ดวงตาของเธอดูคล้ายคนมีความหวังแต่ก็ดูเศร้า “แมดดี้เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเธอจำฉันไม่ได้กันนะ? เธอความจำเสื่อมหรือเปล่า? หรือว่าแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉัน?”
“คุณผู้หญิง ฉันไม่รู้จักคุณจริง ๆ และฉันก็ไม่ได้ความจำเสื่อมด้วย” มาเดลีนอธิบายออกมาอย่างใจเย็น “ฉันแค่ดูเหมือน มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด เท่านั้นเอง”
“เอาล่ะ ในเมื่อเธอบอกว่าเธอไม่ใช่ งั้นเธอกล้าพอที่จะมาเจอใครบางคนกับฉันไหมล่ะ?” ดวงตาของเอวาแสดงออกมาในเชิงเปลี่ยนไป
มาเดลีนยิ้มเบา ๆ “ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ว่าง ฉันไม่มีเวลาเล่นเกมด้วย—”
“แมดดี้”
เมื่อมาเดลีนเอ่ยปฏิเสธเธอได้ยินเสียงหนึ่งขึ้นขัด และเจ้าของเสียงนั้นทำให้เธอต้องตกอยู่ในความตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ