มาเดลีนมองเห็นชายคนหนึ่งที่โผล่พ้นมาจากผู้คนพวกนั้นเธอรู้สึกได้ว่าวิญญาณของเธอได้หลุดจากร่างไป
เธอไม่ได้เจอเขามาแล้วตั้งสามปี แต่คนตรงหน้าเธอนี้ยังคงมีดวงตาที่สดใสและหล่อเหลาเช่นเดิม เขามีความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในพื้นฐานปกติของเขา
เขาค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเธอช้า ๆ ใบหน้าของเธอสะท้อนอยู่ในดวงตาสีนิลของเขา ในนั้นดูมีความสุขและความประหลาดใจที่ไม่อาจบรรยายได้ในตัวของมัน
“แมดดี้ เธอ…” แดเนียลมองเธออย่างจริงจัง เสียงของเขายังคงอ่อนโยนและอบอุ่นเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิเช่นเดิม
“ฉันต้องขอโทษด้วย ฉันเองไม่ใช่ มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด” มาเดลีนเลิกคิ้วแสดงถึงความรำคาญ
“ถ้าพวกคุณมาที่นี่เพื่อดูว่าฉันดูเหมือน มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด แค่ไหน กรุณาช่วยออกไปด้วย ฉันมีธุระอื่นที่ต้องทำมากมาย” เธอพูดออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะหันหลังกลับ และเมื่อใบหน้าของเธออยู่พ้นสายตาของแดเนียลและเอวาแล้วนั้น เธอได้ลดสายตาจองหองของตัวเองลง
‘เอวา แดน ฉันขอโทษจริง ๆ โปรดยกโทษให้ความโหดร้ายครั้งนี้ของฉันด้วยนะ'
“แมดดี้!” เอวาไม่ยอมแพ้เธอคว้ามือมาเดลีนเอาไว้ “แมดดี้ ทำไมเธอถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้? เธอคือแมดดี้ของฉันแท้ ๆ ทำไมเธอถึงต้องการแสร้งทำเป็นไม่รู้จักฉันด้วย?”
เอวาเริ่มมีอารมณ์ หลังจากที่เธอพูดจบ เธอได้ชี้นิ้วไปทางแดเนียล
“เธอบอกว่าเธอไม่รู้จักฉันก็ได้ ถ้างั้นแแล้วแดนล่ะ? ไม่รู้จักเขาด้วยงั้นหรือ? นี่เธอลืมไปแล้วหรอว่าแดนดูแลเธอยังไงในช่วงเวลาที่ผ่านมา?”
มาเดลีนเงยหน้าขึ้นตรวจสอบใบหน้าของแดเนียลผู้หล่อเหลาและใจดีตรงหน้า “ถ้าหากพวกคุณยังปฏิเสธที่จะออกไป ฉันคงต้องขอให้ใครสักคนมาไล่ออกไปแล้วล่ะ”
“แมดดี้” แดเนียลเดินมาหยุดอยู่ข้างมาเดลีน ดวงตาอันแสนอ่อนโยนของเขาจ้องใบหน้าของเธออย่างปกติ มีอารมณ์ที่ลึกซึ้งก่อขึ้นในดวงตาเขา แต่เขาอดกลั้นมันไว้
“ผมดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง”
เขาพูดประโยคนั้นออกมาเบา ๆ เขามีความสุขอย่างแท้จริงอย่างเห็นได้ชัด
มาเดลีนรู้สึกเจ็บปวดในใจ เธอรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่กำลังก่อตัวที่มุมตาตัวเอง เธอฝืนยิ้มอย่างเย็นชาออกมา
“ฉันจะบอกคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะว่า ฉันไม่ใช่มาเดลีน! เลิกคิดว่าฉันเป็นคนตายซักที” เธอพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด จากนั้น เธอรีบหันหน้าหนีไปอีกทางทันที
“แมดดี้!” แดเนียลเอื้อมมือไปคว้ามาเดลีนไว้ด้วยความกังวลและหลงไหลที่มีอยู่ในดวงตาของเขา
“มีอะไรอีก?” มาเดลีนมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “ถ้าคุณยังก่อกวนฉันอีก ฉันจะโทรแจ้งตำรวจจริง ๆ ด้วย”
“แมดดี้ ทำไมเธอถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?” เอวามองมาเดลีนอย่างเจ็บปวดผ่านดวงตา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่า คนตรงหน้าเธอกลายเป็นคนแปลกหน้า
“แดน หยุดคิดมากซะ แค่พาเธอไปหาคุณหมอบราวน์เท่านั้น เธอต้องถูกเจเรมี่คุกคามอยู่แน่ ๆ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอแสดงท่าทีพวกนี้ออกมา” เอวากล่าวในขณะที่เธอจับมือของมาเดลีนไว้เธอต้องการพามาเดลีนออกไปจากที่นี่อย่างแรงกล้า
แดเนียลมองมาเดลีนที่ต่อต้านเธออย่างสุดกำลัง จากนั้น เขาได้จำทุกสิ่งที่เจเรมี่ทำกับเธออย่างโหดร้ายได้ เขาเองตัดสินใจที่จะจับมือของมาเดลีนไว้เช่นเดียวกัน
“ปล่อยเธอซะ”
ในขณะที่ทุกคนมองฉากนี้ด้วยความสงสัย แต่แล้วกลับมีเสียงเย็นชาค่อนข้างเอาแต่ใจได้ดังขึ้นจากมาจากฝูงชนทั้งหลาย พวกเขามองไปยังที่มาของเสียงนั้น ทันใดนั้นเองพวกเขาก็เห็นว่าเสียงที่ว่านั่นมาจากเจเรมี่
เอวาเข้ามาขวางมาเดลีนข้างหน้าและปกป้องเธอไว้ด้านหลังขณะที่จ้องเจเรมี่ไม่ละสายตา
“นายมันขยะเปียก!” เธอจ้องชายที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอเรื่อย ๆ ด้วยความไม่เกรงกลัวอะไร “นี่นายต้องการทรมานแมดดี้ต่อไปอีกนานแค่ไหนกัน?”
เจเรมี่ก้าวไปยืนตรงหน้าเอวามองเธอด้วยสีหน้าเย็นชารัศมีที่เยือกเย็นอันรุนแรงของเขา ทำให้อากาศรอบตัวเย็นลง
เขาเงยหน้าขึ้นมองแดเนียล จากนั้นในวินาทีต่อมา เขาได้เดินไปดึงมือของมาเดลีนให้หลุดออกจากการจับกุุม
“เจเรมี่” แดเนียลขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “นายทำอะไรกับแมดดี้ลงไป?”
“นายมันสารเลว! นี่นายยังคงทรมานแมดดี้ซ้ำ ๆ แบบนี้อยู่อีก ตอนนี้ เธอถูกล้างสมองไปเรียบร้อยแล้วเห็นไหม! นายมันสัตว์นรก!” เอวาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ทว่า เจเรมี่เพียงยิ้มออกมาบาง ๆ เขาเหลือบมองเอวาด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะพูดว่า “มาเดลีน เสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อนแล้ว เธออย่าลืมสิ เธอเป็นคนเผาศพหล่อนเองกับมือ นี่เธอคิดว่าคนที่กลายเป็นขี้เถ้าไปแล้วจะยังมีชีวิตอยู่ที่นี่ได้อีกงั้นหรอ?”
“... ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ