แค่เพียงคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้เมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็ก เขาจึงปกป้องผู้หญิงเลวร้ายคนนั้นมานานเหมือนคนโง่ ในขณะเดียวกัน เขากรีดเนื้อผู้หญิงที่เขารักออกทีละนิด
เจเรมี่หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดูเนื้อหาบนหน้าจอนั้นอีกครั้ง ในรูปภาพพวกนั้นมีหัวข้อที่เป็นรูปภาพของเธอสมัยยังเป็นเด็กอยู่
ในตอนที่เขาและเมเรดิธกลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาขอดูรูปถ่ายสมัยเด็กของเธอ แต่ว่าตอนนั้นเธอกลับให้เหตุผลกับเขาว่ารูปพวกนั้นได้หายไปเพราะเธอเปลี่ยนที่อยู่ใหม่
ตอนนี้ ชาวเน็ตบางคนได้ขุดรูปของเธอตอนที่เธอยังเป็นเด็ก
เจเรมี่เหยียดนิ้วออกและเคาะเบา ๆ ที่ชื่อเรื่อง
ก๊อก ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูกระจกสำนักงานดังขึ้น
เจเรมี่เงยหน้าขึ้น และเห็นว่าคนที่กำลังจะเข้ามาคือ เคน เบเกอร์ “เข้ามา”
เขาวางโทรศัพท์ลงและซ่อนอารมณ์จากเรื่องพวกนั้นเอาไว้ข้างในใจ อารมณ์พวกนั้นจะถูกปลดปล่อยออกมาก็ต่อเมื่อไม่มีใครอยู่รอบข้างเพราะเขาไม่ต้องการให้ใครรับรู้ถึงอารมณ์ที่แท้จริงของเขา
เคนเดินไปที่โต๊ะทำงานและรายงานอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณวิทแมนครับ ผมจับตาดูเฟลิเป้มาระยะหนึ่งแล้ว เขาไม่ได้ทำผิดแปลกอะไรไปให้เป็นที่น่าสังเกต แต่เมื่อวานนี้เขาได้นัดเจอกับคนเก่าแก่สองคนจากคณะกรรมการบริหารของบริษัทวิทแมนอย่างเงียบ ๆ ”
“เฟลิเป้เดินตามทางของตัวเองมาตลอดและเขาไม่เคยพึ่งอำนาจและเงินทองของวิทเเมน เขาไม่แม้แต่จะเต็มใจมีส่วนร่วมในตระกูลวิทแมนด้วยซ้ำ มีเหตุอะไรที่ทำให้เขาต้องติดต่อกับคณะกรรมการบริหารในเครือบริษัทวิทแมนกันแน่นะ?” เจเรมี่พูดพึมพำออกมา และใช้ความคิดไตร่ตรองเรื่องนี้สองสามวินาที
เขารู้สึกมาเสมอว่าเฟลิเป้มีความลับอย่างแน่นอนและอาวุโสวิทแมนก็รู้ความลับนี้อย่างแน่นอนแต่ อาวุโสวิทแมนไม่ต้องการพูดมันออกมาก็เท่านั้น
เขารู้แค่ว่าอาวุโสวิทแมนมักจะหลบเลี่ยงเฟลิเป้เสมอ
แม้ว่าเฟลิเป้จะดูเป็นสุภาพบุรุษเสมอ แต่ภายใต้สายตาที่อ่อนโยนของเขา มันก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะไม่มีพิษภัยซ่อนอยู่
“นี่คือใบสูติบัตรของ ลิเลียน ลูกสาวของวีล่า และการตามหาข้อมูลของโรงพยาบาลท้องถิ่น มันใช้เวลานานมากในการได้รับคำตอบเพราะการสอบสวนเป็นไปอย่างยากลำบาก” เคนส่งมอบแฟ้มอีกอันให้เขา
เจเรมี่หยุดชะงักเป็นเวลาสักพักก่อนจะรับเอกสารมา
เขาได้รับการยืนยันจากผลตรวจดีเอ็นเอแล้ว แฟ้มรายงานเล่มนี้มาช้าเกินไป
“นายออกไปได้แล้ว และจับตาดูเฟลิเป้ต่อไป”
“รับทราบครับ ผมเข้าใจแล้ว” เคนตอบรับและเดินจากไป
เจเรมี่ถือแฟ้มนั้นไว้แต่ไม่ได้เปิด
เขาไม่มีทางสงบลงได้เลย บนเส้นทางของการเดินทางไปสู่ความตายอย่างเชื่องช้าของมาเดลีน ที่ต้องพบเจอมานั้น เขาได้สร้างความเจ็บปวดทางร่างกายและจิตใจของเธอ มันกระตุ้นอย่างโหดร้ายเมื่อทำให้เธอเหี่ยวเฉา
เขาเดินเข้าไปร้านดอกไม้ด้วยความมึนงงและซื้อดอกกุหลาบสีแดงตามปกติ
ในขณะที่เขากำลังจะขึ้นรถ เขาได้ยินเสียงหวาน ๆ ดังขึ้น
“บังเอิญอะไรขนาดนี้” มาเดลีนเดินไปหาเขาอย่างสบาย ๆ
เจเรมี่ซ่อนความเศร้าและความเสียใจของเขาไว้ แล้วยิ้มดูดีออกมา
“วีล่า? ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?”
“ก็แค่ผ่านมาน่ะ” มาเดลีนยิ้มอย่างสดใสก่อนจะชี้ไปที่กุหลาบช่อใหญ่ในมือ “ว่าแต่คุณ ทำไมคุณถึงซื้อดอกกุหลาบช่อใหญ่แบบนี้? มันเป็นของฉันหรือเปล่า?”
เจเรมี่เหลือบมองช่อดอกไม้ในมือแล้วหัวเราะเล็กน้อย “ถ้าคุณชอบมัน ผมสามารถซื้อให้คุณได้เลย แต่ช่อดอกไม้นี้ไม่เหมาะกับคุณก็เท่านั้น”
มาเดลีนเลิกคิ้วทำท่าจะไม่พอใจ “อย่าบอกนะว่านี่เป็นของเมเรดิธ ? ดอกกุหลาบสีแดงเป็นตัวแทนของความรัก คุณยังรักเธออยู่จริง ๆ ด้วย”
“คุณหึงหรือไง?” เจเรมี่ยิ้ม และจ้องมาเดลีนก่อนที่สายตาของเขาจะถูกเปลี่ยนเป็นจริงจัง “ดอกกุหลาบสีแดงเป็นตัวแทนของความรัก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าดอกกุหลาบสีแดงและจำนวนของมันสื่อถึงอะไร?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มาเดลีนมองไปที่ช่อดอกกุหลาบขนาดใหญ่อย่างไม่แน่ใจ ‘ในช่อนั้นมีดอกไม้ประมาณ 99 ดอก ใช่ไหมนะ?’
‘ดอกกุหลาบแดง 99 ดอกไม่ได้หมายความว่าคุณต้องการให้ความรักคงอยู่ตลอดไปเหรอ?’
‘อืม เจเรมี่ คุณยังรักเมเรดิธอยู่จริง ๆ ด้วย’
ในขณะที่มาเดลีนกำลังใช้ความคิดอย่างเงียบๆ ๆ เจเรมี่เดินไปเปิดประตูรถฝั่งคนนั่งให้เธอ “คุณไม่อยากรู้หรือไงว่าดอกกุหลาบพวกนี้เป็นของใคร? เข้าไปในรถสิ”
มาเดลีนตะลึง กับรอยยิ้มกว้างของเขา เธอเข้าไปในรถอย่างกระฉับกระเฉง
เขาขับรถมาเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไป 20 นาที ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย
มาเดลีนอดไม่ได้ที่จะหยุดนิ่งขณะมองไปที่ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยนอกหน้าต่าง
ที่นี่มันคือสุสาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ