ช้าไปแล้วสำหรับเธอในตอนนี้มาเดลีนไม่เหลือเวลาที่จะหยุดเอโลอิสเมื่อเธอโพล่งประโยคนั้นออกไป
อากาศและบรรยากาศรอบตัวนิ่งลงไปพักนึง มาเดลีนมองดูปฏิกิริยาของเจเรมี่จากมุมตา สีหน้าของเขาดูซับซ้อนเหลือเกิน ราวกับว่าเขาเพิ่งได้ยินข่าวที่คาดไม่ถึง กระนั้นเอง เขาดูสงบอยู่
มาเดลีนคิดหนักอยู่สองสามวินาทีก่อนจะทำลายความเงียบพวกนั้นลง “ทั้งสองมอนต์โกเมอรี คิดว่ามาเดลีนเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพวกคุณอย่างนั้นเหรอ?”
เอโลอิสจ้องเธอ และพูดว่า “แม้ว่าเราจะไม่มีบางอย่างที่เป็นการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัด แต่ความแน่ใจของพวกเรามีมากกว่า 90% ที่ว่ามาเดลีนเป็นลูกสาวของฉัน!”
น้ำเสียงของเธอฟังดูไปในทางบวกและคิดเข้าข้างตัวเองอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยหมอกแห่งความคิดถึงและห่วงหาในขณะที่มองไปที่หน้ามาเดลีน
“วีล่า ตัวเธอเองมีลูกสาว ใช่ไหม?” เอโลอิสถามขึ้นมาทันที
มาเดลีนพยักหน้า “ใช่”
“ตอนนั้นที่ฉันเห็นลูกสาวของเธอที่โรงพยาบาลครั้งแรก ฉันรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อลูกสาวของเธอดูคล้ายกับลูกสาวของฉันมากในตอนที่เธอเกิดมาลืมตาดูโลกครั้งแรก”
“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมทั้งสองถึงดูคล้ายกัน นั่นเป็นเพราะว่าหน้าตาของคุณแทบจะเป็นคนคนเดียวกันกับมาเดลีนเลย...”
หลังจากได้ฟังเรื่องที่เอโลอิสอธิบายแล้ว มาเดลีนถึงกับอึ้งเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินแบบ
สิ่งที่เอโลอิสพูดเป็นความจริงเมื่อครั้งที่เธอเห็นลิลลี่ในตอนนั้นทำให้เธอเลื่อนลอยไปพักหนึ่ง
มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
‘ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบ 30 ปี แต่แม่ของฉันก็ยังจำรูปร่างหน้าตาของฉันได้อย่างชัดเจนเมื่อครั้งที่ฉันยังเป็นทารก’
มีความหวานจาง ๆ ก่อเกิดขึ้นในหัวใจมาเดลีน
ในช่วงเกือบ 30 ปีที่ผ่านมานี่เธออยู่โดยไม่มีพ่อและแม่ ในที่สุดเธอก็ได้รู้ว่าการที่ถูกคนที่รักเธอคิดถึงเป็นยังไง แม้ว่าความรู้สึกนี้จะถูกซ่อนไว้ในมุมลึกที่ไม่มีใครมองเห็นก็ตาม
มาเดลีนกำลังครุ่นคิดอยู่เงียบ ๆ ในขณะที่ได้ยินเฌอนพูดกับเจเรมี่ด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้องว่า “เจเรมี่ ฉันรู้ว่านายเองไม่ชอบมาเดลีนมาเสมอ ในสิ่งที่คิดว่าเธอวางแผนเพื่อที่จะบังคับให้นายได้แต่งงานกับเธอ ตอนนี้นายควรรู้ว่ามาเดลีนนั้นบริสุทธิ์แค่ไหนและทุกอย่างเป็นแผนการของเมเรดิธคนเดียวเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น นี่เป็นเวลาสามปีแล้วที่มาเดลีนเสียชีวิต ในตอนนี้…”
เมื่อเขาพูดมาถึงตอนนี้ ฌอนกำลังสะอึกแต่เขายังคงพูดต่อ “เจเรมี่ เราสอคนไม่มีสิทธิ์กล่าวหานายเลย เรามาที่นี่ในวันนี้ก็เพราะเห็นว่านายสามารถช่วยเราได้เพราะครั้งหนึ่งนายเคยแต่งงานกับมาเดลีน
“แม้ว่าเราจะไม่มีโอกาสได้พบกับลูกสาวของเราอีกครั้งในชีวิตนี้ แต่เราหวังว่าเธอจะรับรู้ได้ว่าเธอเองมีบรรพบุรุษและมีตัวตนแทนการเป็นผีไร้ญาติที่ไม่มีครอบครัว…”
ขณะที่เขาพูดแบบนี้ เอโลอิสอดไม่ได้ที่จะหันหน้าหนีและเอามือปิดหน้าร้องไห้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...