รอยยิ้มของเธอสดใส หมือนดอกไม้ที่เบ่งบานกลางฤดูร้อนโดยที่ไม่มีวันร่วงโรย ดวงตาของเธอดูเปล่งประกายเหมือนแสงแห่งดวงดาวที่สดใสในดวงตาของเขา
เจเรมี่กดวางสาย เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปทางที่มาเดลีนยืนอยู่ “วีล่า ผมมีเรื่องจะบอกคุณ นายท่านและคุณนายของมอนต์โกเมอรีเชิญเราไปบ้านพวกเขาในคืนนี้”
มาเดลีนที่กำลังจัดแจงอาหารกลางวันให้เขาอยู่ได้หยุดชะงักลงเล็กน้อย “น่าแปลกที่ทำไมจู่ ๆพวกเขาถึงชวนพวกเราไปเป็นแขกได้?”
“ผมคิดว่าพวกเขามีบางอย่างที่จะขอร้องและคิดว่าคุณจะสามารถช่วยพวกเขาได้”
เจเรมี่มองไปที่มาเดลีน ก่อนจะเอ่ยบอกถึงเนื้อเรื่องสำคัญให้เธอทราบถึงจุดประสงค์ที่ดูไม่สมเหตุสมผลนี้
มาเดลีนหันหน้าไปทางเขาและดึงเนคไทเจเรมี่ด้วยนิ้วเรียวยาว เธอในตอนนี้กำลังเผยรอยยิ้มของผู้หญิงที่มีเสน่ห์และคงไว้ซึ่งความมีชีวิตชีวา
“แค่เพียงเห็นหน้าคุณ ฉันก็ยอมทำทุกอย่างแล้วล่ะ”
สายตาของเขาในขณะนี้กำลังชื่นชมใบหน้าที่สวยสดใสที่อยู่ตรงหน้า เขามองเธอด้วยแววตาอ่อนโยนพร้อมกับหัวใจที่กำลังเต้นผิดจังหวะขึ้นเล็กน้อย...
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในช่วงค่ำของวันนี้ แสงของพระอาทิตย์กำลังส่องกระทบตกลงบนกิ่งไม้ที่ถูกหักออกเป็นสองท่อนร่วงลงสู่ผืน
มาเดลีนยืนจับมือเจเรมี่ในขณะที่พวกเขาเดินก้าวเข้าไปในประตูบ้านมอนต์โกเมอรีอย่างสุภาพเรียบร้อย
เอโลอิสและฌอนเฝ้ารอให้ถึงเวลานี้อย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่เห็นใบหน้าอันงดงามของมาเดลีนได้ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา ดวงตาของทั้งคู่ได้เผยให้เห็นถึงความโหยหาและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
นั่นคงเป็นเพราะว่าใบหน้าที่เธอมีอยู่ในตอนนี้เหมือนกันกับลูกสาวตัวน้อยของพวกเขาทุกประการ
พวกเขาไม่สามารถมีรอยยิ้มที่มีความสุขแบบนั้นได้นานนัก เพราะจิตสำนึกที่พวกเขาเคยได้ทำผิดกำลังหลอกหลอนจิตใจพวกเขา การที่มองไปที่ใบหน้าเธอเป็นเหมือนการปลอบประโลมพวกเขาให้บรรเทาจากความเจ็บปวดเล็กน้อย แม้ว่าทั้งคู่จะรู้ดีว่านี่เป็นการกระทำที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวไปหน่อยก็ตาม
จากสถานการณ์ในตอนนี้ เอโลอิสและฌอนต้องการที่จะเข้าใกล้มาเดลีนมากขึ้นด้วยใจจริง
“คุณวีล่า คุณวิทแมน เชิญนั่ง” เอโลอิสให้การต้อนรับพวกเขาในฐานะเจ้าบ้านอย่างอบอุ่น ดวงตาของเธอไม่สามารถละออกจากใบหน้ามาเดลีนได้เลย “ยิ่งฉันมองเธอมากเท่าไหร่นะวีล่า เธอก็ยิ่งสวยงามขึ้นทุกครั้ง ต้องขออภัยด้วยหากว่าฉันกำลังทำให้เธอลำบากใจในคืนนี้”
“คุณนายมอนต์โกเมอรี ไม่ต้องพูดเป็นทางการเลยนะ แค่เรียกฉันว่าวีล่าก็พอ” มาเดลีนยิ้มแต่ยังคงรู้สึกประชดอยู่ในใจ
เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยใบหน้านี้ แต่สิ่งที่จะได้รับเป็นเพียงการปฏิบัติที่แสนเลวร้ายเท่านั้น
หัวใจของมนุษย์นั้นอยากรู้อยากเห็นในสิ่งนั้นเสมอโดยขณะที่ธรรมชาติของมนุษย์แล้วไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย
ไดอาน่ายืนอยู่ในครัว ได้ยินเสียงดังมาจากห้องโถงทำให้เธอรู้ว่าแขกเดินทางมาถึงแล้ว เธอใช้สายตาอันดุดันจ้องมาเดลีนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...