ไดอาน่านึกว่าตัวเองหูฝาด เธอยังคงอยู่ในอาการตกตะลึง เธอส่ายหัวไปมาอย่างไม่เชื่อและไม่สามารถยอมรับในเรื่องที่ได้ยินนี้ได้
“เป็นไปได้ไงกัน? ไม่มีทาง! ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นลูกสาวของคุณผู้หญิงได้ยังไง? ผู้หญิงคนนั้นไม่คู่ควร เธอไม่สมควรกับตำแหน่งทายาทมอนต์โกเมอรีเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่คนสารเลว”
“หุบปากของเธอเดี๋ยวนี้!” เอโลอิสโกรธจัด “เธอเป็นใครถึงได้มาสาปแช่งลูกสาวของฉันแบบนี้? ถ้าลูกสาวของฉันไม่คู่ควร แล้วลูกสาวของเธอคู่ควรหรือไง? เธอกล้าทำสิ่งที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายแบบนี้มันต่ำเสียยิ่งกว่าความต่ำทั้งหมดที่ฉันเคยพบเจอมาในชีวิตเสียอีก นี่ยังมีหน้าที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ลูกสาวของฉันอีกเหรอ? ไดอาน่า เธอเป็นคนที่ไม่มีจิตใต้สำนึกและเป็นคนที่ไม่รู้ถูกรู้ผิด คนอย่างเธอไม่สมควรที่จะถูกเรียกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ!”
เอโลอิสตำหนิเธออย่างตรงไปตรงมาด้วยความโกรธ เมื่อเธอนึกภาพไปถึงความลำบากที่มาเดลีนต้องต่อสู้และดิ้นรนเอาตัวรอดมา หัวใจเอโลอิสก็เจ็บปวดเกินคำบรรยาย
“เอโลอิสเป็นอะไรไป?” เมื่อเห็นว่าเอโลอิสร่างกายเริ่มแกว่งไปมาคล้ายกับว่าเธอกำลังจะเป็นลม ฌอนรีบพยุงเธอไว้อย่างกังวลใจ
เอโลอิสร้องไห้ออกมาพร้อมกับเอามือกุมไว้ที่หน้าอกของตัวเอง “ฮือ ฌอน ฉันเจ็บไปถึงหัวใจ มันเจ็บมากเหลือเกินมากเกินกว่าที่ฉันจะยอมรับไหว ลูกสาวของเราควรจะเติบโตมาในสภาพที่สมบูรณ์เพรียบพร้อม แต่ใครจะไปคิดกันว่าเธอจะถูกฆ่าตายแบบนั้นจริง ๆ…”
ขณะที่เธอพูด ดวงตาสีแดงและน้ำตาของเธอก็จ้องไปที่ไดอาน่าอย่างโกรธเคืองมาก
“ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาอยู่ที่บ้านมอนต์โกเมอรีตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ตอบฉันหน่อยว่าฉันเคยปฏิบัติต่อเธอไม่ดียังไง? ฉันหวังดีกับเธอมาตลอดแม้กระทั่งช่วยเหลือเธอในการแต่งงาน ฉันพร้อมที่จะช่วยเหลือเธอเสมอ แต่ผลที่ได้รับคือ? ฉันคิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้สึกซาบซึ้งใจกับความดีที่พวกเราเคยมอบให้เธอด้วยการตอบแทนน้ำใจของพวกเราด้วยความอกตัญญู!
“บริทนีย์เป็นเด็กดี ถึงแม้ว่าในตอนนั้นพวกเราจะรู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพวกเรา ถึงต่อให้เป็นแบบนั้นพวกเราก็ไม่เคยทำให้เธอต้องรู้สึกไม่ใช่ส่วนหนึ่งในครอบครัวของเราเลยสักนิด แล้วเธอล่ะ? เธอปฏิบัติกับลูกสาวของฉันยังไง? ถ้าไม่ได้เป็นเพราะความโลภของเธอในตอนนั้น เอวลีน ของฉันจะไม่มีทางตายไปแบบนี้อย่างแน่นอน!”
“คุณผู้หญิง ฉันไม่เคยคิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ฉันส่งมอบมาเดลีนให้กับน้องสาวของฉันในตอนนั้นและให้เธอดูแลมาเดลีนอย่างดี” ไดอาน่ากำลังปัดความผิด แล้วพูดด้วยเสียงที่ไม่พอใจออกมา “แต่คุณผู้หญิง มันก็ยังเป็นความจริงที่ว่าลูกสาวของคุณได้ฆ่าลูกสาวของฉันไป แม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไป การตายของเธอก็ยังคงทิ้งไว้ซึ่งความผิดที่ไม่สามารถให้อภัยได้อยู่ดี นั่นเป็นสิ่งที่เธอสมควรที่จะได้รับผลกรรมตอบสนองแล้ว บริทนีย์ลูกสาวของฉันไร้เดียงสาและเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องนี้!”
“เธอ…”
และเมื่อได้ยินคำพูดของไดอาน่าที่ดูไม่สำนึกยังคงตั้งหน้าที่จะยืนยันแบบนั้น เอโลอิสและฌอนต่างพากันโกรธเคือง
เรื่องนี้มันไร้สาระบ้าบอไปกันใหญ่แล้ว!
เห็นได้ชัดว่าเธอได้ทำสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยลงไปและความน่ารังเกียจแบบนั้น แต่เธอก็ยังเลือกที่จะยืนกรานผลักความผิดไปให้คนอื่น
“ไดอาน่า ฟังฉันให้ดี! ลูกสาวของฉันไม่เคยทำร้ายใคร เธอเป็นผู้บริสุทธิ์! บริทนีย์ถูกคนอื่นฆาตกรรม! แต่ในทางตรงกันข้าม เธอฆ่าลูกสาวฉัน! ลูกสาวของฉันถูก คนโง่เง่า ร้ายกาจและไม่มีเหตุผลแบบเธอฆ่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...