ชุดนอนด้านนอกเปิดออก ความเย็นยะเยือกเข้าปกคลุม
แม้ว่าเฟลิเป้จะน่าหลงใหลเพียงใด แต่ความรู้สึกของเมเดลีนชัดเจนอย่างมาก
เธอจับมือของเฟลิเป้และปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา “ฉันขอโทษด้วย เฟลิเป้ แต่ฉันคิดว่ายังไม่พร้อม”
เมเดลีนลุกหนีออกจากอ้อมแขนของเฟลิเป้
เมเดลีนรู้สึกหายใจหายคอได้คล่องขึ้นมา ตอนที่พวกเขารักษาระยะห่างซึ่งกันและกัน
เฟลิเป้ที่รู้สึกขุ่นเคืองอยู่ภายในลุกขึ้นและกล่าวคำขอโทษ “ผมขอโทษด้วยเอวลีน ผมทำอะไรเกิดเลยไปหน่อย”
เมเดลีนส่ายหัว “ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษด้วย ฉันจำเรื่องราวและความรู้สึกที่มีให้คุณไม่ได้ ฉันก็เลย…”
“ไม่เป็นไรครับ” เฟลิเป้ปลอบประโลมเธอด้วยรอยยิ้ม “อย่าฝืนใจตัวเองเลยครับ เดี๋ยวสักวันหนึ่งคุณต้องจำได้แน่”
“ขอบคุณนะคะ เฟลิเป้”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมเลย เด็กโง่ แม้ว่าจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ว่าพวกเราแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว และตราบใดที่หัวใจผมเชื่อมโยงกับคุณ คุณยังเป็นภรรยาของผมแน่นอน”
เฟลิเป้เดินเข้าไปกอดเมเดลีนและลูบไล้ปอยผมที่นุ่มสลวยดังปุยนุ่นของเธอ “อย่าคิดมาก และพักผ่อนเสียนะครับ”
“คุณก็เหมือนกันนะคะ”
เฟลิเป้พยักหน้านิดหน่อย “ฝันดีครับ”
เขายิ้มและหันหลังเดินออกไป แต่ในตอนที่เดินออกจากห้องของเมเดลีน ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขาก็เลือนหายไปอย่างสิ้นเชิง
การที่เมเดลีนปฏิเสธเขา ไม่ได้หมายความว่าเธอยังหลงเหลือเยื่อใยกับเจเรมี่อยู่ แต่มันกลับชัดเจนมากพอที่จะบอกได้ว่า เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย
ดวงตาของเขาฉายแววของความมุ่งร้ายอยู่ภายใน ก่อนที่จะกลับมาอบอุ่นและอ่อนโยนดังเดิม
‘เอวลีน
‘เธอจะต้องตกหลุมรักฉัน ฉันแน่ใจ
‘ฉันตัดสินใจเรื่องนี้ นับตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกแล้ว’
…
แม้ว่ายังไม่ได้ทำอะไรกันเครื่องเพชรในตอนนี้ แต่เธอใช้เงินที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ไปกับความบันเทิงที่บาร์เมื่อคืนแล้ว สิ่งเดียวที่น่าสนใจเมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนคือ เธอเจอชายหนุ่มคนหนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้น...
ปัง!
ทันใดนั้นคาเลนทุบตะเกียบลงกับโต๊ะรับประทานอาหารอย่างแรง กระชากอีวอนออกจากความเพ้อฝันอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอหันมองและรู้ว่าคาเลนกำลังจ้องมองเมเดลีน
“ฮึ ทำไมแกถึงน่าไม่อายแบบนี้นะ?! ทำหัวฉันแตกกับขโมยเงินฉันไป แล้วยังเสนอหน้ามาเหยียบที่บ้านหลังนี้ ราวกับตัวเองเป็นเจ้าของบ้านอยู่อีกเหรอ?”
“อย่าพูดเสียงดังไปสิคะ คุณป้าคาเลน ถ้าเจเรมี่ได้ยินขึ้น รังแต่จะกวนใจเขาเปล่า ๆ นะคะ” อีวอนกล่าวเตือนอย่างคนที่แสร้งทำว่าเป็นคนดี
แต่อย่างไรก็ตาม คำพูดของเธอราวกับน้ำมันที่สาดลงในกองเพลิงแห่งความเดือดดาลของคาเลนเสียมากกว่า
“ถ้าได้ยินแล้วมันจะทำไม? ครั้งนี้ฉันเป็นผู้เคราะห์ร้ายนะ เธอกำลังจะบอกให้ฉันเงียบปากทั้ง ๆ ที่ไอ้คนที่ทำความผิดมันยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนั้นนะเหรอ?” คาเลนขว้างตะเกียบในมือลงพื้นและกระทืบเท้าตรงเข้ามาหาเมเดลีน
“เจเรมี่ไม่ใช่สามีของแกแล้ว เมเดลีน แกไม่มีธุระอะไรกับบ้านวิทแมนอีก แล้วทำไมแกถึงยังเสนอหน้ามาที่นี่ได้ทุกวันล่ะ? มาเป็นสิ่งอุจาดลูกตาที่ทำให้ชีวิตฉันลำบากขึ้นรึไง?”
เมเดลีนหันหลังไปหาเธอและยิ้มตอบโต้ “คุณก็แค่มองไปทางอื่นสิ ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นของอุจาดลูกตาน่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...