เมเดลีนจับมือเอโลอิสเอาไว้ เอ่ยถามด้วยสายที่เป็นกังวล “เจเรมี่อยู่ไหนคะ? เขาตาย… เขาตายแล้วจริง ๆ เหรอคะ?”
เอโลอิสชะงักได้ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเมเดลีนเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา
“เอวลีน ลูกฝันร้ายไปรึเปล่า?” เอโลอิสปลอบประโลมลูกสาว “เจเรมี่เจ็บหนักก็จริง แต่ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตนะ”
หลังจากได้ฟังคำตอบของเอโลอิส เมเดลีนพลันรู้สึกได้ถึงหัวใจที่กลับมาเต้นอีกครั้ง
“เขายังไม่ตายใช่ไหมคะ?”
“ยังจ้ะ” เอโลอิสให้คำตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ “แต่ว่าขาและมือได้รับบาดเจ็บ ก็เหมือนกับลูกน่ะ เขาสูดควันเข้าไปเยอะมาก ดังนั้น ตอนนี้เขาเลยยังไม่ฟื้น”
กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เธอเห็นเป็นเพียงฝันร้ายสินะ
กลายเป็นว่าเขาไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายสินะ
เมเดลีนรู้สึกได้ในทันทีว่าหัวใจของเธอไม่ได้เดินไปตามเส้นทางที่ยุ่งเหยิงอีก และความเจ็บปวดที่บีบคั้นหัวใจเธอมาตลอดได้หายไปหมดสิ้นแล้ว
เอโลอิสสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเมเดลีน และเข้าใจในสิ่งที่เธอเห็นอยู่ภายในใจเงียบ ๆ
กลับกลายเป็นว่าเอวลีนยังคงหลงเหลือเยื่อใยที่มีต่อเจเรมี่อยู่มากมาย
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้ เมเดลีนเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา “แม่คะ เจเรมี่พักอยู่วอร์ดไหนคะ?”
เมื่อได้ยินลูกสาวเรียกตนว่าแม่ เอโลอิสรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เธอตอบกลับ “ข้าง ๆ กับลูกนั่นแหละจ้ะ”
เขาอยู่วอร์ดข้าง ๆ อย่างนั้นเหรอ?
เมเดลีนหันหลังและเดินกลับไป ตอนนั้นเธอเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากอาการข้อเท้าแพลง
เธอขยับขาอย่างระมัดระวังมากขึ้น ตอนที่กำลังจะเดินไปถึงห้องพักของเจเรมี่ เฟลิเป้รีบเดินมาหาเธอ เส้นทางที่จะนำทางเธอไปหาเจเรมี่ถูกขว้างกั้น
แจ็คสันกำลังนั่งเล่นอยู่บนโซฟา กวัดแกว่งขาไปมา เด็กน้อยไม่ชอบใจเลยเมื่อเห็นว่าเฟลิเป้และเมเดลีน แม่ของตนอยู่ใกล้ชิดกัน
“แม่ครับ พ่อยังไม่ตื่นเลย” แจ็คสันจงใจพูดประโยคนี้ออกมาอย่างจริงจัง “แม่ครับ ถ้าพ่อตื่นนอนแล้ว พ่อต้องอยากเห็นหน้าแม่เป็นคนแรกแน่เลย”
เฟลิเป้เข้าใจสิ่งที่เด็กน้อยพูดในทันที แต่เขาต้องเก็บความขุ่นเคืองไว้ภายใน เขาเผยรอยยิ้มออกมาแทน และเอ่ยถาม “ผมได้ยินว่าเจเรมี่ช่วยชีวิตคุณเอาไว้ใช่ไหม”
“ใช่น่ะสิ พ่อช่วยแม่เอาไว้ เพราะว่าแม่เป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของพ่อ” แจ็คสันตอบคำถามโดยลืมคิดถึงความรู้สึกของเมเดลีน
เมเดลีนพูดไม่ออกไปชั่วครู่ ก่อนจะเผยรอยยิ้มอันเบาบางให้เห็น “เฟลิเป้คะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วก็จริง แต่ฉันยังรู้สึกเพลียนิดหน่อย คุณออกไปก่อนเถอะค่ะ ฉันอยากจะนอนพักอีกสักหน่อย”
เฟลิเป้พยักหน้า “ถ้างั้น พักผ่อนเยอะ ๆ นะ เดี๋ยวผมมาเยี่ยมใหม่”
“ค่ะ” เมเดลีนยิ้มตอบ
ไม่นานหลังจากเฟลิเป้ออกไป เมเดลีนเดินมาที่ประตูหน้าเจเรมี่อีกครั้ง เมื่อเดินมาถึงประตูและกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าไปดี เมเดลีนได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวภายใน “เจเรมี่ นายตื่นแล้วเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...